วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้อมูลนารูโตะ

                                                 ประวัตินารูโตะ
นารูโตะเกิดมา คนในหมู่บ้านรังเกียจและชิงชังตั้งแต่เด็ก แม่ของเขาคือพลังสถิตย์ร่างเก้าหางคนที่ 2 อุซึมากิ คุชินะ คุโนอิจิ แห่งแคว้นอุซึชิโอะ (แคว้นสายน้ำวน-แคว้นนี้เก่งวิชาผนึกมาก) ถูกส่งมาอยู่ที่โคโนฮะตั้งแต่เด็ก ตระกูล อุซึมากิ มีความสัมพันธ์ เป็นญาติห่างๆของตระกูล เซ็นจู ฮาชิราม่า เซ็นจู (โฮคาเงะรุ่นที่ 1) โดย อุซึมากิ มิโตะ (พลังสถิตย์ร่างเก้าหางคนแรก แต่งงานกับ โฮคาเงะรุ่นที่ 1) พ่อของเขาคือ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเสะ มินาโตะ ซึ่งเป็นผู้เสียสละชีวิตตัวเองต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและผนึกจิ้งจอกเก้าหางลงไปในตัวนารูโตะ จึงสามารถฝึกวิชาของรุ่นที่ 4 ได้ง่ายกว่าใครๆอย่างกระสุนวงจักระและรวมทั้งวิชาพื้นฐานด้วย เนื่องจากนารูโตะได้รับอิทธิพลมาจาก จิ้งจอกเก้าหางโดยตรงทำให้นารูโตะมีจักระที่เยอะมากกว่าคนอื่นในระดับเดียวกัน นารูโตะเติบโตมากับความโดดเดี่ยวที่ไม่มีพ่อและแม่ และมากกว่านั้นนารูโตะโดนนินจาและผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นเกลียดชัง เนื่องจากในตัวนารูโตะนั้นมีจิ้งจอกเก้าหาง จึงทำให้คน, นินจาในหมู่บ้านเกลียดนารูโตะเพราะคิดว่านารูโตะเป็นปีศาจ อูมิโนะ อิรุกะ อาจารย์คนแรกของนารูโตะเป็นคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่นารูโตะเหมือนน้องชายตัวเอง
อิรุกะเข้าใจความรู้สึกของนารูโตะเนื่องจากมีชีวิตในวัยเด็กเหมือนกัน ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และจิ้งจอกเก้าหางที่ผนึกอยู่ในร่างของนารูโตะนั้นฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะอีกด้วย 12 ปีต่อมานารูโตะตัวแสบของหมู่บ้านโคโนฮะเข้าสอบเพื่อเลื่อนเป็นเกะนินแต่ไม่สำเร็จ และได้ถูกมิซึกิหลอกให้ไปเอาคัมภีร์ที่รวบรวมวิชานินจามาให้ เพื่อตนเองจะได้เอาไปและให้นารูโตะเป็นแพะรับบาป แต่อิรุกะได้มาช่วยนารูโตะไว้ มิซึกิได้บอกว่าในตัวนารูโตะมีตัวจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว และได้ฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะ นารูโตะได้เรียนวิชานินจากับซาซึเกะ,ซากุระ และครูคาคาชิซึ่งร่วมมือกันในภารกิจต่างๆในหน่วย 7 โดยเฉพาะภารกิจที่ช่วยคุ้มครองการสร้างสะพาน ในภาคสอง นารูโตะและซากุระไปช่วยกาอาระ{คาเซคาเงะ}ที่โดนกลุ่มแสงอุษาลักพาตัว

ประวัติ เพน
เพนทั้งหมดมี 6 คน วิถีสวรรค์,วิถีมนุษย์,วิถีเดรัจฉาน,วิถีอสูร,วิถีเปรต และ วิถีนรกและทั้งหมดนี้มีคนควบคุมทั้งหมดคือนางาโตะ
เพนวิถีสวรรค์เป็นศพของยาฮิโกะ ซึ่งนางาโตะผู้เป็นเพื่อนรักษาร่างไว้หลังจากเรื่องที่น่าสลด นางาโตะมาจากหมู่บ้านอะเมะงาคุเระ ซึ่งเป็นเด็กที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวหลังจากที่พ่อและแม่ตายเพราะสงครามระหว่างแคว้นโดยถูกพวกนินจาโคโนฮะฆ่าตายที่บ้านเพราะนึกว่าเป็นนินจา นางาโตะได้ฆ่านินจา 2 คนนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวในตอนแรก ด้วยเนตร สังสาระของตน  นางาโตะออกจากที่นั้น เค้าไร้ซึ่งจุดหมาย เป็นเด็กกำพร้าสงคราม ระหว่างทางก็ได้เจอหมาตัวนึง ก็เลยไห้เดินทางไปด้วย  หลังจากนั้น เค้าก็หมดแรงและล้มลงไปด้วยความหิว ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก แล้วเด็กผู้หญิงคนนึง ชื่อว่า โคนันก็ก้มลงและส่งขนมปังให้ แล้วพา นางาโตะมาอยู่ด้วย แล้วก็ได้เจอกับ ยาฮิโกะ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่  ทั้ง 3 คนอยู่ได้ด้วยการขโมยอาหาร จนกระทั้งวันนึง มีมีดติดยันระเบิด(สะกดไงหว่า)ร่วงลงมากลางวงของทั้ง3 คนที่กำลังเดินอยู่เหตุนั้นทำให้ เจ้าหมานั้นของนางาโตะตาย นางาโตะได้แต่นั้งกอดเจ้าหมาและร้องไห้  แต่ยาฮิโกะกลับพูดว่า ร้องไหอยู่นั้นแหละ นางาโตะ ร้องไห้ไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก  แล้วยาฮิโกะก้เดินไปดูตรงจุดที่มีดนั้นร่วงลงมา แล้วก็ได้เห็น จิไรยะ ซึนาเดะ และโอโรจิมารุ ต่อสู้กับซาลามานเดอร์ ฮันโซ  ยาฮิโกะพูดออกมาอย่างดังว่า  ถ้าโลกนี้ยังมีสงครามอยู่อีกละก็  ชั้นจะเป็นพระเจ้าให้กับโลกนี้เองแล้วความฝันของยาฮิโกะก็กลายมาเป็นความฝันของนางาโตะ เนื่องจากว่าเค้าเป็นเด็กกำพร้าสงคราม สงครามจึงเป็นเหมือนกับนรกของเค้า ยาฮิโกะอยากเรียนวิชา นินจา เพื่อจะได้เป็นนินจาที่สร้างสันติภาพให้กับโลกใบนี้ จึงไปขอเรียนจากนินจาที่เจอในตอนนั้น ซึ่งหลังจากนั้นถูกเรียกว่า 3 นินจา  และแล้วจิไรยะ เซียนจิไรยะ  หรือ เซียนกบ ก็สอนวิชานินจาให้กับทั้งสามคน  หลังจากฝึกอยู่ 3 ปี ทั้ง 3 ก็แข็งเกร่งขึ้น ทั้งกาย และ ใจ และอาจารย์ก็ได้บอกกับนางาโตะว่า "เนตรสังสาระ ของเธออาจเกียวเนื่องอยู่กับสันติภาพในโลกใบนี้ เพราะ เมื่อก่อน วิชานินจามากมายเกิดมาจากนักบวชคนหนึ่ง ซึ่งได้ไขปริศนาของจักกระ และสร้างนินชูซึ่ง ปัจจุบันเรียกกันว่า วิชานินจา และก็มีผู้มีเนตรสังสาระเกิดขึ้นอีกละได้สร้างวิชานินจาต่างๆในโลกใบนี้ ซึ่งเรียกกันว่า เซียนหกวิถี หรือหกเซียนเต๋า  "  และอาจารย์จิไรยะก็เชื่อว่า "คนที่จะสร้างสันติภาพให้กับโลกนี้ต่อไปอาจเปน เธอ นางาโตะ "  และแล้ว    ครูก็จากไป กลับไปโคโนฮะ
และทั้งสามคนก็ออกเคลื่อนไหว โดยมียาฮิโกะเป็นผู้นำ ไม่นาน กลุ่ของพวกเค้าก็เริ่มมีชิ่อเสียงโด่งดัง ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าจะสร้างสันติภาพโดยไม่ต้องอาศัยพลังอำนาจและกำลังรบแต่ก็ยังมี 3 แค้วนใหญ่ที่ยังทำสงครามกันอยู่ แล้ว ฮันโซหัวหน้าของอะเมะงาคุเระก็ได้ยินคำรำลือของกลุ่มยาฮิโกะจึงเข้ามาหา และฮันโซเสนอให้พวกยาฮิโกะเป็นแกนนำในการเจรจาสันติภาพระหว่าง 3 แคว้น จะใช้พลังของพวกเค้า บีบทั้ง 3 แคว้น เห็นชอบที่จะสร้างสันติภาพต่อกัน และพวกเค้าก็ยินยอมร่วมมือกับความคิดนั้นและนั้นเป็นจุดเริ่มต้อนของหายนะ ทั้งหมดเป็นแผนของฮันโซ ด้วยความระแวงว่า ยาฮิโกะจะชิงตำแหน่งผู้นำของอะเมะงาคุเระ ไม่นาน ในวันนัดพบปะเพื่อเจรจาลูกน้องของฮันโซพร้อมด้วย หน่วยลับของโคโนฮะ ฮันโซร่วมมือกับ ดันโซ จากโคโนฮะเพื่อกำจัดพวกยาฮิโกะ เพราะองค์กรของยาฮิโกะสำหรับฮันโซเป็นอุปสรรค และฮันโซจับโคนันไว้และสั่งให้นางาโตะฆ่ายาฮิโกะ  โคนันตะโกนบอกทั้งสองคนให้หนีไปซะ ในตอนนั้นเอง นางาโตะแค่ต้องการปกป้องสองคนนั้น  ยาฮิโกะพูดว่า "ฆ่าชั้นซะ"    นางาโตะสบสนมากเค้าแค่ต้องการที่จะปกป้อง 2 คนนั้นเท่านั้นเองแต่แล้ว ยาฮิโกะวิ่งเข้ามาจับมือของนางาโตะทึ่ถือมีดอยู่แทงตัวเอง    นางาโตะได้แต่นิ่งท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาอยู่ไม่หยุดหย่อน และในความเงียบนั้น ยาฮิโกะได้บอกนางาโตะว่า  นายกับโคนัน...หาทางเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้นะ......นาย...คือผู้ที่จะ..กอบก็โลกนี้..ถ้าเป็นนาย...คงสิ้นเสียงของยาฮิโกะโคนันได้แต่ตะโกนเรียกเค้า แต่ในใจของนางาโตะ นี้มันเป็นการสูญเสียครั้งที่ 2 ของเค้า ทั้งๆที่เติบโตขึ้นมาแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเปลียนแปลงเหมือนกับครั้งที่พ่อแม่ตายไป เค้าเพิ่งจะสำนึกว่า คำตอบที่เคยได้มามันไร้ค่ายิ่งกว่าเศษสวะ จากนั้น ฮันโซสั่งให้นินจาที่อยู่รอบๆฆ่านางาโตะซะ  ขณะที่นินจาทั้งหมด ปามีดตรงเข้ามาทาง นางาโตะยังคงได้ยินเสียงของยาฮิโกะในใจ  ถ้าโลกนี้ยังมีสงครามอยู่อย่างไม่หยุดหย่อนละก็......ชั้นจาเป็นพระเจ้าให้กับโลกนี้เอง และแล้วนางาโตะได้ใช้พลังของเนตรสังสาระสะท้อนมีดนั้นออกและช่วยโคนันพร้อมกับหลบหนีจากคาถาไฟของฮันโซ  แล้วก็อัญเชิญเทวรูปมารนอกรีตออกมาเทวรูปนั้นพ่นมังกรออกมาจากปากใครที่โดน ก็จะโดนดูดวิญญาณ  แต่ฮันโซใช้คาถาย้ายร่างพริบตา  หนีไปได้ หลังจากนั้นนางาโตะเป็นผู้นำกลุ่มแทนยาฮิโกะ เพื่อนพ้องอีกหลายๆคนก็ตายไปในการสู้รบ คนแล้ว คนเล่านางาโตะเข้าใจว่า คนเราแค่มีชีวิตอยู่ก็สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นโดยไม่รู้ตัวตราบที่คนยังคงอยู่ก็ก่อเกิดความเกลียดชังด้วยในเวลาเดียวกัน  โลกต้องสาปแบบนี้ไม่มีสันติภาพอยู่  จากนั้นก็ได้สร้างแสงอุสาห์ขึ้นและอญู่ภายใต้คำสั่งของ  อุจิวะ   มาดาระ ซึ่งบงการอยู่เบื่องหลัง  และ แสงอุสา ก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยเป่าหมายคือ คืนชีพ 10 หาง !!!

ประวัติ อุสึมากิ มินาโตะ
เมื่ออายุ 10 ขวบ มินาโตะสอบไล่ผ่านระดับชั้นนักเรียนนินจาจนกระทั่งได้เป็นเกะนิน และได้เป็นลูกศิษย์ของจิไรยะ มินาโตะเป็นเด็กชายผู้ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ด้วยการอบรมสั่งสอนของผู้เป็นนินจาในตำนานอย่างจิไรยะ มินาโตะสามารถพัฒนาความสามารถของตนเองจนได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะนินจาอีกคนหนึ่งของหมู่บ้านที่นานปีจะมีสักคน จิไรยะได้เลือกมินาโตะเป็นผู้สืบทอดคาถาอัญเชิญกามะ(กบ) ผู้ช่วยซึ่งเข้าต่อสู้ร่วมกับเจ้านายผู้เข้าทำสัญญาผนึกกับคัมภีร์ เขาได้พัฒนาทักษะของตัวเองจนกระทั่งได้คิดค้นวิชาประจำตัวขึ้น คือกระสุนวงจักร (Rasengan)และ Hirishin (วิชาเทพอัสนี) ต่อมาด้วยวิชาที่คิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเองนั้นทำให้เขามีชื่อเสียงและผู้คนได้มอบฉายาให้ว่า “ประกายสีเหลืองแห่งโคโนฮะ” มีที่มาจากสีผมที่เป็นสีเหลืองและความรวดเร็วของตัววิชานั่นเอง
ต่อมา มินาโตะสอบไล่ได้เป็นจูนิน และได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน จากนั้นจึงหน้าที่เป็นอาจารย์ของเหล่าเกะนินตัวน้อย มินาโตะเป็นโจนินเซนเซย์ หรืออาจารยประจำกลุ่มของฮาตาเกะ คาคาชิ ฮารุโนะ ริน และอุจิวะ โอบิโตะ เมื่อคาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน มินาโตะได้มอบของขวัญแก่คาคาชิเป็นมีดบินเทพสายฟ้า ซึ่งได้ลงอักขระวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาไว้เป็นรางวัลในการที่คาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนินไวกว่าคนอื่น และด้วยวิชาเคลื่อนย้ายพริบตานี้ มินาโตะได้ล้มนินจาจากหมู่บ้าน(หิน)50คนด้วยตัวคนเดียว ด้วยการใช้วิชาร่วมกับมีดบินเทพสายฟ้าที่ลงอักขระไว้จากสถานการณ์ที่เลวร้ายของหมู่บ้านและ พลิกกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบและในขณะเดียวกันที่คาคาชิกำลังมีอันตราย มินาโตะก็ได้วาร์ปกลับมาช่วยคาคาชิและรินไว้ได้ทัน แม้จะต้องสูญเสียโอบิโตะไปก็ตาม
ในปีที่เขาถูกเรียกกลับหมู่บ้าน เนื่องจากวีรกรรมต่างๆที่ทำได้ทำไว้ในสงครามนินจา โฮคาเงะรุน่ที่ 3จึงได้เลือกมินาโตะเป็นผู้สืบทอดเจตจำนงแห่งไฟคนที่ 4 ต่อจากตน
มินาโตะเป็นผู้ชายผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า หน้าตาหล่อเหลา มีความเป็นสุภาพบรุษและเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน เขามีภรรยาชื่อ อุซึมากิ คุชินะ อดีตพลังสถิตร่างของ9หางคนก่อน ซึ่งเป็นนินจาจากแคว้นแห่งน้ำวน เป็นสาวสวยผมสีแดงและเชี่ยวชาญวิชาปิดผนึก ในวันที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก คุชินะไม่ค่อยชอบมินาโตะนักเพราะคิดว่าเขาดูอ่อนแอ แต่กระทั่งคุชินะถูกนินจาแคว้นอื่นจับตัวไป มินาโตะเป็นคนเดียวที่สามารถตามรอยและพาตัวคุชินะกลับมาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเอ่ยชมเส้นผมสีแดงของคุชินะอีกด้วย นับจากเหตุการณ์นั้น คุชินะจึงเริ่มรู้สึกหลงรักมินาโตะ แล้วทั้งสองก็ได้แต่งงานกันในที่สุด เมื่อคุชินะตั้งครรภ์ ทั้งสองตกลงตั้งชื่อลูกของตนว่า นารุโตะ จากชื่อพระเอกในนิยายตำนานนินจาใจหาญของจิไรยะ
จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายที่จิ้งจอกเก้าหางบุกโคโนฮะ ภายใต้เบื้องหลังการกระทำของ อุจิวะ โอบิโตะที่รอดชีวิตมาโดยไม่มีใครล่วงรู้ มินาโตะตัดสินใจที่จะยุติปัญหาและความสูญเสียของหมู่บ้าน ด้วยการสละวิญญาณของตัวเองและผนึกมันไว้ในตัวของลูกชายของเขา โดยมินาโตะหวังว่านารุโตะจะกลายเป็นที่รักของคนทั่วไป และเห็นนารุโตะเป็นวีรบุรุษเช่นเดียวกับตนที่ได้ช่วยหมู่บ้านเอาไว้ แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อผู้คนในหมู่บ้านกลับหวาดหวั่นและรังเกียจนารุโตะ มองเห็นว่านารุโตะเป็นตัวแทนจิ้งจอกเก้าหาง แต่ภายหลังจากสู้กับเพน นารุโตะก็ได้กลายเป็นวีรบุรุษปกป้องหมู่บ้าน และเป็นที่ยอมรับและรักใคร่ของทุกคนในหมู่บ้านสมความตั้งใจของผู้เป็นพ่อในที่สุด
เขาปรากฏตัวออกมาอีกครั้งเพื่อหยุดยั้งนารุโตะที่กำลังคลุ้มคลั่งและใกล้จะแปลงร่างเป็นเก้าหางอย่างสมบูรณ์ แม้เวลาจะเหลือน้อยเต็มทีแล้ว แต่เขายังได้พูดคุยและชี้แนะนารุโตะให้มีกำลังใจในการต่อสู้ ทั้งยังเปิดเผยความลับบางส่วนที่เกิดขึ้นในอดีตให้ฟัง ทว่าเนื่องจากจักระที่เขาเหลือไว้มีปริมาณไม่มากนักจึงต้องลาจากลูกชายภายในเวลาสั้นๆ กระนั้นเขาก็ได้ช่วยกระตุ้นนารุโตะให้กลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ในที่สุด
ปัจจุบันมินาโตะปรากฏตัวอีกครั้งเพราะคาถาสัมพเวสีคืนชีพของโอรุจิมารุและได้เข้าร่วมสงครามโลกนินจาครั้งที่4



ประวัติ อุจิฮะ มาดาระ
อุจิวะ มาดาระ ตามข้อมูลทั้งหมดที่หลายๆคนเขียน คือบรรพบุรุษแห่งตระกูลอุจิวะ

ซึ่งเป็นลูกของโซโจโบราชาเทนงูกับหญิงสาวฮิวงะ ซึ่งได้รับพรสวรรค์มหาศาลจากฮิวงะและเทนงูจนเกิดเนตรวงแหวนขึ้นมา แถมเป็นเพื่อนกับรุ่น1 และก่อตั้งหน่วยตำรวจขึ้นแต่ความเป็นจริงราชาเทนงูไม่ได้แต่งงานงานกับสาวฮิวงะเพราะความรักแต่ต้องการร่างใหม่เพื่อสิงสู่กลืนกินร่าง(ประมาณโอโรจิมารุ)สุดท้ายมาดาระก็ต้องถึงคราวต่อสู้กับพ่อตัวเองแต่พลังของเขายังไม่แกร่งพอ เขาจึงไปขอยืมพลังจิ้งจอกเก้าหาง ก่อนจะไปได้โดนโฮคาเงะรุ่น 1 ขัดขวางเพราะทั้งคู่เป็นสหายกันแล้วรุ่น 1 นึกว่ามาดาระจะไปไขว่หาพลังชั่วร้าย และสุดท้ายรุ่น1ก็ห้ามไม่ได้และต่อสู้กันและก็มีรูปปั้นของทั้งคู่สืบต่อมา(ที่นารุโตะกับซาสุเกะสู้กัน) และการต่อสู้ของเขากับพ่อมาดาระก็ผนึกโซโจโบได้โดยมีเงื่อนไขปลดผนึกอยู่ด้วย นั้นก็คือการเอาคนที่เบิกเนตรกระจกเงา 3 คนกับพลังของจิ้งจอกเก้าหาง( เพราะมาดาระใช้พลัง 9 หางผนึก)อิทาจิที่รู้ความลับ(ว่ากันว่าผู้ปลดผนึกจะได้พลังอันยิ่งใหญ่)เขาคิดว่าตระกูลอุจิวะคงไม่มีทางเข่นฆ่าตนที่รักเพื่อเบิกเนตรกระจกเงาหรอก เขาเล็งเห็นพรสวรรค์ในตัวซาสึเกะจึงฆ่าทุกคนให้ซาสึเกะเคียดแค้นจนต้องเบิกเนตร เพราะเขาพบคนที่มีเนตรนี้อีกคนแล้ว นั่นคือมาดาระหัวหน้าใหญ่ผู้ชักใยแสงอุษาแต่ข้อสงสัยว่ามาดาระถ้ามีชีวิตอยู่อายุน่าจะเป็นร้อยแล้วแต่ทำไมเขาไปไหนมาเขากลับมาได้ไงและที่อิทาจิเข้าแสงอุษาเพราะจะได้หา 9 หางได้สะดวก




ขีดจำกัดทางสายเลืด
พวกจำกัดสายเลือด

ขีดจำกัดสายเลือด (「血継限界」, Kekkei genkai, – เคกเกเงนไก?) หรือสายเลือดพิเศษ เป็นวิชาลับที่ส่งผ่านในตระกูลทางสายเลือดเท่านั้น และไม่สามารถร่ำเรียนหรือเลียนแบบได้ ได้แก่ ต้องเป็นผู้สืบเชื้อสายทางสายเลือดโดยเฉพราะในวงศ์ตระกูลเดียวกันเท่านั้น
ตระกูลอุจิวะ เนตรวงแหวน

เนตรวงแหวน หรือเรียก ชารินงัน (写輪眼, しゃりんがん, ความหมาย: ตาวงล้อเลียนแบบ) เป็นสายเลือดพิเศษของตระกูลอุจิวะ ว่ากันว่าเนตรนี้มีต้นกำเนิดจากเนตรสีขาวของตระกูลฮิวงะ
จุดกำเนิด

เคยมีตำนานเล่าว่า หญิงสาวจากตระกูลฮิวงะได้หนีออกมาจากตระกูลเพื่อจะมาแต่งงานกับผู้ชายที่ตนรักแต่ผู้ชายคนนั้นคือปีศาจ"เท็นงู"แปลงกายมาเป็นมนุษย์และเมื่อตั้งท้องได้กำเนิดลูกชายชื่อว่า"อุจิวะ มาดาระ"และมาดาระยังเป็นคนเบิกเนตรวงแหวนและเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเป็น คนแรกและเมื่อได้รู้ว่าพ่อของตนเป็นปีศาจที่แปลงกายมาแต่งงานกับแม่ของตนไม่ ใช่เพราะความรักแต่ต้องการพลังของเนตร จึงได้เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างมาดาระและเท็นงู และมาดาระก็เป็ยฝ่ายได้ชัยชนะไป แต่ก็ยังไม่สามารถฆ่าพ่อของตนเองได้ แต่ได้ใช้วิชาปิดผนึกไว้ที่หุบเขาสิ้นสุด (The Dead Hill) และกลายเป็นตำนานที่เล่าต่อกันมาของเนตรวงแหวน

ใน ตามนั้น อุจิวะ มาดาระ ยังคงมีชีวิตอยู่หลังจากใช้พลังดวงตามากเกินไปจนตาบอดสนิดได้ทำการควักลูกใน ตาของน้องชายมาเป็นของตัวเองแทน โดยในเรื่องนั้น อุจิวะ ยังเป็นหัวหน้าแสงอุสา และอาจารย์ของ พี่ชาย ซาซึเกะ


ลักษณะเฉพาะที่แยกได้
ความสามารถ

เนตรวงแหวนมีความสามารถในการก๊อปปี้จดจำ นินจุตสุ (วิชานินจา) เกนจุตสุ (วิชาภาพลวงตา) และ ไทจุตสุ (การต่อสู้ตัวต่อตัว) ได้อย่างแม่นยำและผู้ใช้สามารถใช้กระบวนท่าเเละวิชาเดียวกันได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสะกดจิต และ การมองเห็นภาพลวงตาและทำนายการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ เนตรวงแหวน



ระดับของเนตรวงแหวน

มีการใช้งานมากขึ้นเนตรวงแหวนจะเพิ่มระดับเหนือขึ้นไปมีชื่อว่า เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา จะเกิดขึ้นได้เฉพาะในสายเลือดอุจิวะและต้องผ่านเงื่อนไขพิเศษอย่างหนึ่งก่อนคือ ฆ่าคนที่สนิทที่สุด หรือ คนที่รักที่สุด

จุดแตกต่างของเนตรวงแหวนจะเกิดขึ้นเมื่อปกป้องคนสำคัญ แต่เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาจะต้องมีเนตรวงแหวนขั้นที่2ก่อนเเละให้ปลิดชีพคนสำคัญของตน
บุคคลที่ใช้เนตรวงแหวนเป็นอาวุธ

1. อุจิวะ มาดาระ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์)

2. น้องชายของมันดาระ(ยังไม่เปิดเผยชื่อ)

3. อุจิวะ อิทาจิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา)

4. ฮาตาเกะ คาคาชิ (เนตรวงเเหวน) คาคาชิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เพราะเนื่องจากที่ได้มาจากการฝึกฝน ต่างกับของอิทาจิที่ได้มาจากการสังหารเพื่อนสนิท ทำให้พลังที่ได้จึงแตกต่างกัน คือ สามารถย้ายสิ่งต่างๆ ที่ตนเพ่งไปยังมิติอื่นได้ (เช่น แขนของเดอิดาระ) มีคนนอกตระกูลเพียงคนเดียวที่ได้รับเนตรวงแหวน มาจากเพื่อนในสมัยเด็กคือหลังจากถูกเชลยสงครามชิงตัวไป ซึ่งเพื่อนของเขาได้มอบเนตรวงแหวนให้คาคาชิก่อนที่จะตาย เพื่อเป็นของขวัญที่คาคาชิสามารถสอบเป็นจูนินได้สำเร็จ

    * อุจิวะ อิทาจิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้ โดยมีวิชาเนตรคือ อ่านจันทราและเทวีสุริยา 

เกล็ดเล็กน้อย

เนตรวงแหวน

1. เนตรวงแหวน  = พันธุกรรม

2. เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา      = สามารถได้มากจากการที่ฆ่าเพื่อนที่สำคัญที่สุด ไป 1 คน

3. เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ = ได้มากจากการที่ฆ่าน้องชายของตัวเอง แล้วนำเนตรวงแหวนของน้องชายมาใส่ให้ตน

รายชื่อผู้ที่สามารถเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้

    * หมาย เหตุ ผลกระทบ จากการใช้ เนตรวงแหวนกระจำเงาหมื่นบุปผา คือจะไม่ได้รับแสงสว่างอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ตาบอดนั่นเองอุจิวะ อิทาจิ ได้พูดไว้ในตอน 386 

เนตรสีขาว



เนตรสีขาวหรือเรียก เบียกุงัน (白眼, びゃくがん, ความหมาย: ตาสีขาว)เป็น สายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ โดยมีความสามารถหลักในการมองเห็น 340 องศา (มองไม่เห็นด้านหลัง 20 องศา) และสามรถมองเห็นเส้นพลังของจักระทั่งหมดในร่างกายได้และใฃ้วิชา "มวยอ่อน"ที่ถ่ายเทจักระทำให้จักระในร่างกายขอคู่ต่อสู้ไม่สามารถรีดเร้นได้ จึงเป็นวิชาที่นับว่ามีความแม่นยำและอันตรายอย่างยิ่ง (ร้ายกาจมากที่สุดในโคโนฮะ) ในขณะที่ต่อสู้ตัวต่อตัว โดยมีจุดบอดจุดเดียวคือบริเวณกระดูกสันหลังข้อแรกบริเวณหน้าอก โดยผู้ใช้สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ในระยะ 50 เมตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการต่อสู้ตัวต่อตัว
สายเฉพาะ

เป็นสายเลือดที่มีการใช้ธาตุในการรีดจักระได้มากกว่า 2 อย่างหรือนอกเหนือจากธาตุธรรมดาปกติด้วย




กระจกเงาทมิฬ


ขีด จำกัดสายเลือดของฮาคุ เป็นวิชาเกี่ยวกับน้ำแข็ง ซึ่งเกิดจากการผสมธาตุระหว่าง ธาตุน้ำกับธาตุลม เป็นวิชาที่ไม่ให้ศัตรูสามารถโจมตีกลับได้เลยและมีจุดอ่อนน้อยมาก โดนการสร้างกระจกจากนำในอากาศเป็นนำแข็งแล้วซ่อนกายในเงาเพื่อโจมตี



ใช้กระดูก



ขีดจำกัดทางสายเลือดของตระกูล คิมิมาโร่ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายในตระกูลเพราะถูกกวาดล้างในสงคราม มีโรคประจำตัว คือ มะเร็งในปอด
ท่าโจมตี

1.ระบำต้นสน เป็นการยืดกระดูกออกจากร่างกายมาป้องกันตน 2.สิบกระสุนปลายนิ้ว เป็นการยิงกระดูกนิ้วมือเข้าหาคู่ตู้สู้ใน ระยะ100เมตร 3.ระบำดอกหลวดเหล็ก เถาวัลย์ บุปผา เป็นการเอากระดูกสันหลังมาทำเป็นดาบยืดหดได้ตามต้องการ 4.ระบำต้นเฟิร์น เป็นเอากระดูกขึ้นมาจากดินที่สร้างด้วยจักระ










ระเบิดดินเหนียว

ขีดจำกัดสายเลือดของเดอิดาระซึ่งเป็นหนึ่งในแสงอุษา โดย เป็นผู้ใช้ ธาตุดิน แพ้ธาตุสายฟ้าเวลาใช้ต้องพูด คัทสึ ซึ่งแปลว่าระเบิด
ลักษณะเฉพาะ

ใช้ ปากที่ใอทั้งสองข้าง ปั้นรูปสัตว์อย่างปราณีตก่อนเติมจักระเพื่อทำเป็นระเบิด ก่อนใช้สามารถทำให้มีชีวิตก่อนได้ โดยยังมีปากทีผนึกไว้ที่ท้องเพื่อทำ C4 อีกด้วย

ท่าไม้ตาย

C1 ระดับระเบิดธรรมดา ทำการสร้างกับดักระเบิด รูปทรงกลมฝังไว้ใต้ดิน หากโดนก็จะระเบิดต่อเนื่องทันทีและรูปสัตว์ต่างๆ C2 ระดับไดนาไม ทำการสร้างนกที่สามารถปั้นตัวเองเป็นระเบิดได้ C3 ระดับไดนามิกบ๊อม ทำการสร้างมังกร ที่สามารถ ปั้นรูปสัตว์เพื่อใช้ตามความต้องการโดยไม่ต้องให้เจ้าตัวปั้นเอง มังกรเป็นผู้ปั้นใช้ดินจากที่บิรเวณหาง บินได้ใวที่สุด C4 ระดับซีโฟร์ เป็นระเบิดที่ต้องรวมร่างเข้ากับตนเองสามารถทำลายได้ทุกอนูชีวิตระดับเซลล์ ก่อนที่จะสลายร่างกายเป็นตุ๊กตาระเบิดทำให้อานุภาคขึ้นระดับเป็นนิวเครีย ทำลายล้างในรัศมี 3 กิโลเมตร






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น