ในตอนนี้แฟมมิลี่ของสึนะนั้นมีโกคุเทระ ฮายาโตะที่เป็นมือระเบิดมาจากอิตาลีและยามาโมโตะ ทาเคชิเจ้าของฉายาบ้าเบสบอลที่โกคุเทระตั้งให้ โกคุเทระนั้นเข้ามาเป็นแฟมมิลี่ของสึนะเพราะซาบซึ้งในบุญคุณของสึนะที่ช่วยตนไว้ ส่วนยามาโมโตะนั้นที่เข้ามาเป็นแฟมมิลี่ของสึนะเพราะคิดว่าสึนะกับยามาโมโตะเล่นเป็นมาเฟียกัน ส่วนวาที่แฟมมิลี่ของสึนะในตอนนี้ก็มีซาซางาวะ เรียวเฮพี่ชายสุดขั้วของเคียวโกะที่เป็นหัวหน้าชมรมมวยและต้องการให้สึนะเข้าชมรมเพราะเห็นพลังของสึนะ (ในโหมดไฮเปอร์) และอีกคนคือฮิบาริ เคียวยะเป็นหัวหน้ากรรมการคุมกฎด้วยและเป็นหัวหน้าแก็งอันธพาลด้วย ฝีมือการต่อสู้นั้นเป็นอันดับหนึ่งในโรงเรียนนามิโมริ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครและรักสันโดดจึงทำให้ยากต่อการทีจะทำให้ฮิบาริมาเข้าแฟมมิลี่ ฮิบารินั้นเคยประมือกับพวกสึนะหนึ่งครั้ง และพวกสึนะทั้งสามคนก็แพ้ราบคาบ และรอดชีวิตมาได้เพราะรีบอร์นช่วยเอาไว้ และเพราะสาเหตุนี้นี่เองทำให้ฮิบาริชอบมาสังเกตการณ์กลุ่มสึนะบ่อยๆเพราะถูกใจในฝีมือการต่อสู้ของรีบอร์น ตัวละครอื่นๆที่ปรากฏในภาคนี้ก็มีมิอุระ ฮารุซึ่งเป็นผู้หญิงที่ตอนแรกแอบชอบรีบอร์นแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจมาชอบสึนะเพราะได้สึนะช่วยชีวิตไว้ตอนจะจมน้ำและได้สัญญากับสึนะไว้ว่าจะเป็นศรีภรรยาที่ดีให้กับบ้านซาวาดะ นอกจากนั้นก็มีระเบิดมนุษย์อี้พิงซึ่งเป็นนักฆ่ามาจากจีนและตกหลุมรักฮิบาริ ตอนนี้ได้อาศัยอยู่ที่บ้านของสึนะด้วยเหตุผมที่ว่าอี้พิงจะขอฝึกฝนตนเองให้เก่งขึ้น แล้วก็ยังมีแรมโบ้นักฆ่าที่ใส่ชุดลายวัวทั้งตัวจากโบวิโน่แฟมมิลี่ที่ตอนแรกหมายจะมาฆ่ารีบอร์นแต่ดันลืมภารกิจของตัวเองและตอนนี้ก็ได้อาศัยอยู่ที่บ้านของสึนะ โดยที่เวลาที่แรมโบ้เสียใจมากๆนั้นแรมโบ้นจะใช้บาซูก้าทศวรรตยิงใส่ตัวเองเพื่อสับเปลี่ยนกับตัวเองในอีก10ปีข้างหน้าออกมา ซึ่งแรมโบ้ในอีกสิบปีข้างหน้านั้นหน้าตาเหมือนแฟนเก่าของเบี้ยงกี้ไม่มีผิด แมงป่องพิษเบี้ยงกี้นั้นเป็นคนรักของรีบอร์นที่มาจากอิตาลีเพื่อที่จะตามตัวรีบอร์นกลับไปทำงานด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นกับรีบอร์นเพื่อนช่วยสอนวิชาคหกรรมให้สึนะตามที่รีบอร์นขอ เบี้ยงกี้นั้นเป็นพี่สาวของโกคุเทระแต่ว่าเวลาที่โกคุเดระเห็นหน้าเบี้ยงกี้นั้นจะมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ส่วนคนสุดท้ายนั้นคือแรงกิ้งฟูตะ เป็นนักจัดแรงกิ้งที่สามารถติดต่อกับดาวแรงกิ้งได้ ว่ากันว่าแรงกิ้งที่ฟูตะจัดนั้นถูกร้อยทั้งร้อยทำให้เป็นที่ต้องการตัวของพวกมาเฟียที่ต้องการอำนาจ ด้วยการช่วยเหลือของสึนะทำให้ฟูตะย้ายมาอยู่กับสึนะเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ส่วนแฟมมิลี่พันธมิตรที่ปรากฏออกมาในตอนนี้มีคาบัคโนเล่แฟมมิลี่ที่มีม้าพยศดีโน่อดีตลูกศิษฐ์ของรีบอร์นเป็นบอส
ภาคฝึกฝน[แก้]
อิชิดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กอนุบาลที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องทุกด้าน จนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมกาก" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางหื่นคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นชาวร็อคที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "โคโกโร่"มาจากดาวอังคาร สึนะไม่ยอมรับว่าโคโกโร่ซึ่งดูเป็นเด็กเกรียนอยู่จะเป็นชาวร็อคได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "อาก้า" ที่กลางหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องเป็นอีโม และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพร็อคกับ โกดะ ทาเคชิ อย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับร็อคของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับรถชนก็ถูกระเบิดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ เสื้อผ้าของเขาขาดออก และเขาก็วิ่งและโยกหัวไปสารภาพร็อคกับโกดะ ทาเคชิที่โยกหัวอยู่กับรุ่นพี่คิโมจิ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังไอร่อนแมนที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพร็อคครั้งนี้คือทาเคชิตกใจจนโยกหัวไม่ออก เพราะวิ่งมาสารภาพร็อคโดยที่ไม่ใส่เสื้อผ้า จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับรถชนของโคโกโร่มีพลังวิเศษเหมือนโดเรม่อน และโคโกโร่ก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นชาวร็อคของ "เอวีโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์ถ่ายเอวีขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในดาวอังคาร โคโกโร่บอกว่าเอวีโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่โคตะระนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้าสิบเก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่หนึ่งร้อยต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของทวดของทวดของทวดของทวดของทวดของทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งเอวีโกเล่ขึ้น และล้างมือที่ห้องน้ำญี่ปุ่น หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมชาวร็อคโดยการสารภาพร็อคในสภาพเปลือยเปล่า รุ่นพี่คิโมจิ ที่แอบชอบทาเคชิรู้สึกพอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองกินเผ็ดด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้กินน้ำจะได้ท้องร่วง ตอนแรกสึนะกล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้อีโมแต่ก็จะกลับไปสู้ โคโกโร่จึงยิงกระสุนดับรถชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดชาวเมทัลด้วยการกระชากผมของรุ่นพี่คิโมจิออกจากหัว ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมความร็อคของสึนะ และทาเคชิก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นโดดหนังยาง ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้โคโกโร่โซโล่กีต้าช่วย แต่โคโกโร่บอกว่าถ้าโซโล่โดยไม่มีอะไรคาใจก็จะตายแบบอีโมจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดโคโกโร่ก็ช่วยด้วยการโซโล่กีต้า จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "อุจิวะ โกคุเดระ" ผู้มาจากดาวพลูโต ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของเอวีโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ว้ากเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระ ว้ากจนลมหมด และสึนะในโหมดโคตรร็อค ได้ช่วยผายปอดทั้งหมดได้ทัน และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมชาวร็อคมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมชาวร็อคยิ่งโดดเด่น เช่น การว้ากให้สนามของโรงเรียนระเบิด) ทำให้ โรโรโนอา ยามาโมโตะ นักเปตองของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเปตองจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามฟังเพลงร็อคเมทัล ยามาโมโตะจึงฟังจนแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียนเพื่อให้คนรับรู้ว่าตัวเองร็อค สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยโคโกโร่สนับสนุนด้วยการโซโล่กีต้า ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นคนสดอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารโคโกโร่แต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักโยกหัวที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดนึกว่าสึนะเป็นอีโม ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องร็อคให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นอุนจิที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพาโคโกโร่กลับไปเป็นอีโม แต่ความที่เบียงกี้ชอบโคโกโร่มากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก และดิวโด้ หัวหน้าคาสิโนแฟมิลี่ เป็นศิษย์รุ่นพี่ของสึนะโดยเคยเป็นลูกศิษย์ของโคโกโร่มาก่อน จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่ไม่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างรถแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วยโยกหัวจนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก
การท้าทายจากมุคุโร่[แก้]
หลังจากที่กำลังออกจากห้องซ้อมเพลงร็อคของเรียวเฮ ก็ได้พบกับคุซาอาเบะที่นอนซมอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน และเนื่องจากการที่มุคุโร่ส่งนักอีโมหลายคนมาทำร้ายเด็กโรงเรียนฮานามิโมริ ฮิบารีจึงไปจัดการกับมุคุโร่ แต่กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค"เซ็นบง ซากุระ"ที่เมื่ออยู่มองดอกซากุระแล้ว จะโยกหัวไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโด้"ของ ดร. ชาเขียว ในขณะเดียวกัน ขณะที่โกคุเทระกำลังโซโล่กีต้าอยู่ก็มาเจอ1ในนักฆ่าของมุคุโร่"จิคุสะ"โดยบังเอิญ ทำให้เกิดการโซโล่กีต้าขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันก็โดนพิษอีโมจากอาวุธของเขา"โอเล่"เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องไปที่ห้องชาวร็อคของโรงเรียนฮานา มิโมริ หลังจากที่สึนะออกจากห้องชาวร็อคไปแล้ว สึนะก็ได้พบว่าโคโกโล่กลายเป็นอีโมไปแล้ว จากนั้นโคโกโล่ก็บอกให้ไปถล่มพวกมุคุโร่ด้วยความร็อค และบอกว่ากระสุนดับรถชนเหลืออยู่มากมายแค่ศูนย์นัดโดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเดระ และเบียงกี้ไปด้วย แต่ถึงอย่างไร พวกสึนะก็ไปที่อีโมแลนด์ เพื่อปะทะกับมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักอีโมทั้งหมด โดยยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M จนได้พบกับมุคุโร่ ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็กอีโม จนสลบไป โกคุเดระบาดเจ็บ โคโกโร่จึงยิงกระสุนดับรถชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ชนะและรู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ ก็โดนเข็มพิษอีโมจากจิคุสะลอบยิงใส่ จากนั้นมุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อว่า ลันเชี้ย เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีกระสุนดับรถชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโคตรโกรธและบุกไปหาด้วยความสุดขั้วมหาร็อคมุคุโร่ในอีโมคอมเพล็กซ์
พวกสึนะได้พบกับจิคุสะแล้วโกคุเทระก็อาสาสู้ด้วยแต่แล้ว เคนก็มาช่วยจิคุสะ เมื่อโกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย ฮิบาริก็เข้าไปช่วยแล้วจึงไปช่วยสึนะ จึงรวมพลังกันปล่อยบอลเกนจิเพื่อสู้กับมุคุโร่แต่ฮิบาริสลบไปก่อน ในระหว่างที่สู้กันอยู่เพราะง่วง เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงว้ากฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเดระ โคโกโล่จึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า"กระสุนเกรียนอีโม"ซึ่งเป็นกระสุนต้องห้าม (กระสุนพิเศษที่ทางวงการมาเฟียอีโมได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงร่างได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าท่อระบายน้ำ ทว่า โคโกโร่ได้กลับมาเป็นชาวร็อคขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือX-ROCK (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมกากๆทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงว้าก จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วยX-ROCKและกระสุนเสียงว้ากที่ทำให้เข้าสู่โหมดใหม่"โหมดไฮเปอร์ร็อคเก้อ"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวินซี่ คือ กรรมการคุมกฎของมาเฟียที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายร็อคเอาผิดไม่ได้ในวงการมาเฟียจับตัวกลับไปพร้อมกับพรรคพวก
ภาคศึกชิงแหวน[แก้]
หลังจากศึกมุคุโร่ พวกสึนะก็ต้องเผชิญกับกลุ่มวาราเรียกา (Varariaga) โดยที่สควอโล่นั้นไล่กวดบาจิตลอดทาง เพื่อชิงแหวนอีกครึ่งหนึ่งของวองโกเล่ และเจอกับพวกสึนะเข้า สควอโล่นั้นต้องการแหวนผู้พิทักษ์วองโกเล่ เป็นครึ่งหนึ่งของแหวนแต่ละอัน ซึ่งสควอโล่นั้นได้แหวนของปลอมไป ส่วนของจริงนั้นอยู่กับดิวโด้ พ่อของสึนะได้กระจายแหวนไปให้ทั้ง 7 คน โดยมอบแหวนแต่ละวงให้แต่ละคน ดังนี้
- แหวนแห่งนภา - สาวาดะ สึนะโยชิ
- แหวนแห่งเมฆา -ฮิบาริ เคียวยะ
- แหวนแห่งอัศนี- แรมโบ้
- แหวนแห่งวายุ - โกคุเดระ ฮายาโตะ
- แหวนแห่งพิรุน - ยามาโมโตะ ทาเคชิ
- แหวนแห่งอรุณ - ซาซางาวะ เรียวเฮ
- แหวนแห่งสายหมอก - โคลม โดคุโร่ เป็นตัวแทนของ โรคุโด มุคุโร่
ทุกคนนั้นต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะต่อกรกับกลุ่มวาเรียที่กำลังจะรู้ความจริงเรื่องแหวน และจะมาญี่ปุ่นในไม่ช้า รีบอร์นได้จัดครูฝึกของทุกคนไว้ ยกเว้นโครมและแรมโบ้ที่เพิ่งพบว่ามีแหวนอยู่ภายหลัง โดยที่รีบอร์นจัดครูสอนพิเศษไว้ ดังนี้
- ซาวาดะ สึนะโยชิ - โคโกโร่
- ฮิบาริ เคียวยะ - ดีโน่
- โกคุเดระ ฮายาโตะ - ดร.ชามาล
- ยามาโมโตะ ทาเคชิ - พ่อของยามาโมโตะ
- ซาซางาวะ เรียวเฮ - โคโรเนโร่
สึนะนั้นเพิ่งรู้ว่าแหวนแห่งอัศนีนั้นอยู่กับแรมโบ้ ระหว่างที่แรมโบ้นั้นถูกหมายหัวโดยเลวี่หนึ่งในวาราเรีย พวกวาราเรียนั้นมาถึงก่อนกำหนด และทุกคนนั้นถูกจัดการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างผู้พิทักษ์ที่มีแหวนไม่เหมือนกัน โดยแต่ละคืนนั้นจะมีหนึ่งศึก โดยมีลำดับดังนี้
- ศึกแห่งเหลือง ระหว่าง ซาซางาวะ เรียวเฮ ปะทะ ลุซซูเรีย (ชนะ)
เวทีนั้นคือสนามประตูเซเว่นที่ถูกจัดเป็นเวทีมวย ลุซซูเรียชอบใจเรียวเฮ แต่เขาต้องการที่จะให้สิ่งที่ชอบเป็นศพแล้วเก็บเอาไว้ในคอลเล็คชั่นส่วนตัวของเขา[เอาไปสตั้น!!!]
- ศึกแห่งเขียว แรมโบ้ ปะทะ เลวี่ อาแทน (แพ้)
เวทีนั้นอยู่ใต้ดินโรงเรียน โดยที่มีพายุฟ้าไม่ผ่า แถมสายล่อฟ้าตั้งต่ำ แรมโบ้นั้นได้เรียกตัวเองจาก 20 ปีข้างหน้ามาสู้ และกำลังจะชนะแล้ว แต่หมดเวลาของกระสุน บาซูก้าทศวรรษเสียก่อน จึงทำให้เลวี่ได้โอกาสโจมตีแรมโบ้ แต่สึนะมาช่วยไว้ ทว่า ต้องถูกปรับแพ้เพราะสึนะเข้ามาช่วย
- ศึกแห่งแดง โกคุเดระ ฮายาโตะ ปะทะ เบลเฟกอล (แพ้)
เวทีสู้อยู่ในห้องน้ำโรงเรียนตึก A ที่มีลมพายุที่เกิดจากพัดลม พร้อมระเบิดเวลาที่เป็นของเล่น ระหว่างที่สู้เบลเฟกอลได้เห็นเลือดตัวเองจึงดูดดื่มและต่อสู้ได้เก่งขึ้นด้วย โกคุเดระจึงได้ละทิ้งแหวนวายุ เพื่อหนีเอาชีวิตรอดหลังจากที่ระเบิดเวลาใกล้มาถึงตัวของเขาแล้ว
- ศึกแห่งฟ้า ยามาโมโตะ ทาเคชิ ปะทะ สเปลบี สควอโล่ (ชนะ)
สนามสู้คือภายในห้องน้ำ ตึก B โดยที่ห้องน้ำโดนทุบจนแหลก แล้วมีน้ำไหลลงมาจากแท้งค์น้ำที่อยู่ข้างบนมันจะไหลอย่างหยุดจนเกิดนำท่วมและปล่อยสัตว์ใจดีออกมามาโดยที่ระหว่างที่สู้ยามาโมโตะได้รู้ว่าสควอโล่เคยถล่มสำนักชิงุเระโชเอ็นมาแล้ว แต่สควอโล่นั้นไม่สามารถมองเพลงดาบชิงุเระโชเอ็นท่าที่ 8 (พิรุณระหน่ำแทง) โดยคิดว่าเป็น ฝนใบไม้ร่วง และก็ถูกปราบด้วยเพลงดาบชิงุเระโชเอ็นท่าที่ 9 (ฝนสะท้อนพลังเงา) ซึ่งเป็นท่าที่คิดค้นด้วยตัวเอง และสควอโล่ก็โดนฉลามจู่โจมจมหายไป (แต่ยังไม่ตาย)
- ศึกแห่งเทา โคลม โรคุโด ปะทะ มาม่อน [ไวเปอร์] (ชนะ)
สนามสู้คือภายในสนามบาส ที่ไม่มีอะไรพิเศษ มามอนได้ใช้พลังปลดผนึก โจมตีโคลม จนหอกสามง่ามของโคลมหัก จนโคลมล้มลงไป และท้องก็ยุบลงไปเรื่อยๆ ขณะที่โคลมกำลังแย่ มุคุโร่นั้นจึงมาสลับเปลี่ยนกับโคลม แล้วใช้พลังของตนเองที่ได้มาจากในนรกจัดการกับไวเปอร์
- ศึกแห่งม่วง ฮานามิ ฮิบาริ ปะทะ โกล่า มอสก้า (ชนะ)
ที่ๆสู้คือพุ่มไม้โรงเรียนที่เต็มไปด้วยระเบิด และถูกยิงโดยปืนแกตลิ่งจากด้านนอก ฮิบาริชนะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แล้วจึงท้าสู้กับ XANXAS ในระหว่างที่สู้กับ XANXAS มอสก้าก็เกิดบ้าคลั่ง สึนะต้องหยุดมัน แต่ว่ารุ่นที่ 9 ตัวจริงนั้นถูกจับไว้อยู่ข้างใน ในสภาพที่เกือบตาย
- ศึกแห่งส้ม สาวาดะ สึนะโยชิ ปะทะ Xanxas (ชนะ)
สนามสู้คือทั่วเขตอบต. โดยต้องช่วยผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งหมดก่อนครึ่งชั่วโมง โดย Xansas ใช้ความสามารถของรุ่นที่ 2 และอาวุธของรุ่นที่ 7 ส่วนสึนะได้สำเร็จท่าใหม่ เดือดทะลุจุดศูนย์ ของรุ่นที่ 1 และได้คิดค้น เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง ที่ดูดพลังไฟของคู่ต่อสู้ได้ หลังจากนั้นสึนะก็สามารถใช้ เดือดทะลุจุดศูนย์แบบต้นตำรับ ที่ทำให้แช่แข็งศัตรูได้
หลังจากที่สึนะชนะ Xanxas แล้วก็ได้รู้ว่าแผลของ Xansas เกิดจากที่วองโกเล่รุ่นที่ 9 ใช้เดือดทะลุจุดศูนย์ แช่แข็ง และได้รู้อีกว่า Xansas ไม่ใช่ลูกแท้ๆของรุ่นที่ 9 แค่เป็นลูกเลี้ยงเท่านั้น จริงๆแล้ว Xanxas ได้แหวนไปแล้วแต่แหวนกลับปฏิเสธไม่เอา Xansas จากนั้นเบเฟลกอและมาม่อนได้เรียกกลุ่มวาราเรียที่เหลือมาช่วย แต่ว่าถูกลันเชี้ยกำจัดหมด และผู้พิทักษ์ของสึนะทุกคนก็ได้แหวนไป
ปฐมบท The Future[แก้]
รีบอร์นถูกนำตัวสู่อนาคตด้วยบาซูก้าทศวรรษ และยังไม่กลับสู่สภาพเดิม สึนะจึงให้แรมโบ้ยิงบาซูก้าใส่ตัวเองเพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อสอบถาม แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน สึนะโดนบาซูก้าและถูกส่งไปในอีก 10 ข้างหน้าได้ทราบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่ง เพราะตนเองถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้วพร้อมทั้งยังทำลายแหวนวองโกเล่ จากปากของ รัล มิลจิ หนึ่งใน อัลบาโกโล่แน่ เด็กต้องสาป โดยฐานทัพของวองโกแรลนั้นถูกย้ายศูนย์บัญชาการลงใต้ดินหลังจาก มิลฟีโอเล่แฟมิลี่ถล่ม โดยผู้บัญชาการคือเบียกคุรัน วองโกเล่รุ่นที่9 หายสาบสูญโดยมีคำสั่งสุดท้ายให้ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน กระจัดกระจายมารวมตัวกันเพื่อหยุดแผนการสร้างโลกใหม่ด้วยการนำแหวนวองโกเลในอดีตและนำอัลบาโกโล่เน่กลับมาด้วย เพื่อรวมกับแหวนทั้งหมดของมิลฟิโอเล่ เป็น ทูรินิเซนต์ 7³
The Future ภาคกลาง x-burn[แก้]
หลังจากได้รับสารลับให้รวบรวม บรรดาผู้พิทักษ์ทั้ง 6 กลับมาได้แล้วนั้นต้องสุ้กับบรรดานักรบบุปผาอาลัย ตัวปลอมทั้ง 6 คนโดยเป้าหมายนั้นคือ ทำการสอบสวนโชอิจิผู้พัฒนาระบบการเคลื่อนย้ายผ่านบาซูก้าทศวรรษ โดยสึนะและบรรดาผู้พิทักษ์ฝึกใช้กล่องเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วจำเป็นต้องควบคุมความสามารถและการใช้งานให้ได้ก่อนโดย ในการฝึกแรกสึนะ บอสวองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้รับการพัฒนาฝีมือและความสามารถด้วยการรับสัญลักษณ์แห่งวองโกเล่ โดยสามารถพัฒนา X Glove ให้กลายเป็น V.vongola ring หลังจากฝึกเสร็จพวกสึนะได้รับคำสั่งให้บุกฐานทัพเมโลเน่ที่ญี่ปุ่นสึนะได้รับ MicroVR และ MRcontacs เลนส์ ที่พัฒนาให้สามารถเชื่อมความสามารถระหว่าง X Burner V.vongola ring และ Headphone จาก สปาน่าให้ใช้งานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็น
The Future ภาคท้าย x-burn[แก้]
หลังจากเตรียมความพร้อมในการรบกับมิฟิโอเล่แล้ว สึนะได้รับแผนการในการบุกจากสปาน่า ที่รับคำสั่งจาก อิริเอะให้หักหลัง มิฟิโอเร่ โดยมอบทั้งแผนที่และยุทธการและการรบทั้งหมดให้กับสปาน่า แต่ตนเองทำเป็นคุมสถานการณ์ได้ โดยเมื่อเข้ามาในฐานทัพได้แล้วกลับกลายเป็นอาวุธกล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่าบล็อกฐานทัพ โดยมีผู้ใช้งานคือ อิริเอะ ไอริสและ Ginger Bread บุกเข้าไปในห้องทำงานและแล็บต่างๆของสปาน่าเพื่อตามหาสึนะและสปาน่า สุดท้ายก็หาจนพบและได้ต่อสู้กับสึนะ โดยครั้งนี้สึนะได้ใช้ Contacts ซึ่งสปาน่าเป็นผู้สร้างให้ เพื่อพัฒนา X-Burner ให้ถึงขีดสุด Contacts ทำหน้าที่ควบคุมเปลวไฟสองข้างให้เท่ากัน สึนะได้ใช้ X-Burner อย่างสมบูรณ์แบบ และสึนะก็ชนะ หลังจากนั้นอัศวินมายาก็ปรากฏตัว ซึ่งสึนะได้ใช้ X-Burner ใส่แต่ไม่เป็นอะไร และเมื่อต่อสู้กันได้ไม่นานอัศวินมายากันได้แปลงร่างออกมา แต่ก็พ่ายแพ้ให้X-Burnerของสึนะอยู่ดี เมื่อสึนะบุกถึงระบบกลางได้แล้ว อิริเอะได้บอกความจริงที่ว่า ตนเองเป็นฝ่าย วองโกเล่ แล้วพวกสึนะก็ได้รู้ความจริงว่า คนที่ส่งพวกเขาทุกคนมายังยุคนี้คือตัวของสึนะในยุคนี้นั่นเอง ซึ่งแผนการนี้เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะอิริเอะ โชอิจิ สึนะ และฮิบาริในยุคนี้เท่านั้น
ภาคพิเศษ อัลโกบาเลโน่[แก้]
หลังจากจบศึกที่ฐานทัพเมโลเน่ สึนะได้รับกล่อง Vongola มาแต่ไม่สามารถใช้มันได้ อิริเอะ โชอิจิบอกกับเขาว่า การที่จะเปิดกล่องได้ จำเป็นจะต้องกลับไปยังอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เพื่อรับการทดสอบจากอัลโกบาเรโน่ทั้ง 7 โดยการกลับไปของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนั้น ในโลกในอดีต พวกเขาหายไปเพียงแค่สามวันเท่านั้น และอิริเอะก็ได้บอกให้พวกเขาสร้างเรื่องว่า ไปปิคนิคกันแล้วหลงทาง เมื่อทุกคนกลับไปอดีต ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น รีบอร์นได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆของอัลโกบาเรโน่แต่ละคนให้พวกสึนะฟัง อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดประกอบด้วย
- โคโรเนโร่ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุพิรุณ อดีตหัวหน้าหน่วยคอมมุสบินของอิตาลี มีอาวุธคือปืนไรเฟิล
- สกัล (หรือสคัล) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุเมฆา สตั๊นท์แมนผู้ได้รับฉายาว่า สกัลอมตะ สกัลผู้กลับมาจากนรก
- เวลเด้ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอัสนี นักวิทยาศาตร์อัจฉริยะ ผู้สร้างกล่อง (ร่วมกับ เคนิตฮ์ และ อิโนเซนตี้) ในอีกสิบปี
- ไวเปอร์ (มาม่อน) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุสายหมอก เป็นอัลโกบาเลโน่ที่เห็นแก่เงินที่สุด เพศชายแต่มักโดนเข้าใจผิดว่าเป็นเพศหญิง สามารถสร้างภาพมายาให้กลายเป็นจริง และทำให้สิ่งที่มีจริงกลายเป็นภาพมายาได้ เป็นผู้พิทักษ์สายหมอกของกลุ่มลอบสังหารวาเรียด้วย (ภาคอนาคตได้ตายไปฟรานจึงมาแทน)
- ฟง ผู้ครอบครองจุกนมธาตุวายุ นักสู้อัจฉริยะอันดับหนึ่งของการแข่งขันกังฟูทัวร์นาเม้นท์ของจีน หน้าตาและทรงผมเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ แต่มีเปียยาวด้านหลัง เป็นอาจารย์ของอี้ผิง
- รีบอร์น ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอรุณ เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดในหมู่มาเฟียและเป็นครูสอนพิเศษของสึนะและม้าพยศดีโน่ด้วย
- อาเรีย (แม่ของยูนิ) (มาแทนลูเช่ที่เสียชีวิตเพราะคำสาปของอัลโกบาเลโน่เฉพาะธาตุนภาเท่านั้น) (ลูเช่เป็นยายของยูนิ) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุนภา เป็นหัวหน้าของอัลโกบาเลโน่ แม่ของรองหัวหน้ามิลฟีโอเล่แฟมิลี่ ยูนิ ในภาคพิเศษอัลโกบาเลโน่จะเป็นอาเรียซะส่วนใหญ่ จะมีพูดถึงลูเช่ช่วงย้อนความก่อนเป็นอัลโกบาเลโน่
การทดสอบครั้งแรก : การทดสอบของโคโรเนโร่ ฝึกทดสอบด้านกำลังรบ โดยจะต้องหยิบเข็มกลัดที่มีเลข 01จากผ้าโพกหัวของโคโรเนโร่ให้ได้
การทดสอบครั้งที่สอง : การทดสอบของสกัล ทดสอบในด้านสเน่ห์ จะต้องพยายามหยุดการต่อสู้กันระหว่างโรคุโด มุคุโร่ กับ ฮิบาริ เคียวยะให้ได้
การทดสอบครั้งที่สาม: การทดสอบของมาม่อน (ไวเปอร์) ฝึกเกี่ยวกับ ความสามารถในการดัดแปลงและด้านปัญญา โดยจะให้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในนามิโมริเมื่อเจอคำตอบจะต้องทำภารกิจที่มาม่อนบอก ซึ่งภารกิจคือ เอาตัวรอดจากมาม่อนโดยใช้อาวุธกล่องทั้ง 3
การทดสอบครั้งที่สี่ : การทดสอบของฟง ทดสอบด้านความเป็นผู้นำ โดยจะต้องไล่จับฟงในโรงเรียนภายในเวลา 30 นาทีให้ได้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด3คน ได้แก่ ซาวาดะ สึนะโยชิ,แรมโบ้,มิอุระ ฮารุและอี้ผิงที่ปรากฏตัวภายหลังได้เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกๆของการทดสอบ เหล่าทุกคนได้พยายามไล่จับฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับจับตัวฟงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งหมดจะใช้อาวุธไล่โจมตีฟงเพื่อให้ฟงต้องหยุดก็ตาม จนผู้ทดสอบทั้งหมดเริ่มท้อกับการทดสอบ สึนะจึงปลอบใจ และเพิ่มกำลังใจผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ และเริ่มใช้กลยุทธ์ แต่กลยุทธ์นี้กลับพลาดเพราะฮิบาริดันมาเจอเข้า ด้วยความกลัวสึนะก็เลยจับตัวฟงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จับตัวฟงจนได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า "ลมหน่ะยิ่งตามยิ่งหนี"
การทดสอบครั้งที่ห้า : การทดสอบของอาเรีย ทดสอบด้านความอดทนในการยอมรับความเห็นผู้อื่น โดยสึนะจะต้องคอยทำตามคำขอร้องของอาเรียไปเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเป็นอัลโกบาเรโน่หรือเปล่า
การทดสอบครั้งที่หก : การทดสอบของรีบอร์น ทดสอบด้านความสามัคคีของบอส โดยจะต้องต่อสู้กับรีบอร์นแบบ 7 ต่อ 1 (ผู้พิทักษ์ทั้ง6และหัวหน้า VS รีบอร์น) โดยที่สี่คน (โกคุเดระ ฮายาโตะ,ยามาโมโตะ ทาเคชิ,โคลม โดคุโร่,และซาซางะวะ เรียวเฮ) ล้วนแต่ใจอ่อนต่อรีบอร์น จึงไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นเท่าไรนักมีเพียง ฮิบาริ เคียวยะ ที่สนุกกับการต่อสู้นี้ และในขณะที่รีบอร์นจริงจังกับการต่อสู้มาก จนทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งห้าหมดสติลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรมโบ้ ก็ได้แต่นอนอย่างไม่รู้เรื่องอะไรลย จนทำให้เหลือสึนะเพียงคนเดียว จึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสึนะกับรีบอร์น ในช่วงท้ายๆของการทดสอบ รีบอร์นออมมือให้สึนะเล็กน้อย จนสึนะได้โอกาสยิงX-Burner Air แต่ว่า เพราะสึนะไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นมากไปกว่านี้ สึนะจึงหยุดยิงX-Burner Airจนทำให้สูญเสียโอกาสสุดท้ายไป และถูกรีบอร์นโจมตีด้วยกระสุนดับเครื่องชนจนไม่ผ่านการทดสอบในที่สุด
การทดสอบครั้งที่เจ็ด : การทดสอบของเวลเด้ ทดสอบด้านสัญชาตญาณ โดยเวลเด้ได้หลอกให้สู้กับหุ่นยนต์ที่ก๊อปปี้ตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกพวกอัลโกบาเลโน่ ทั้งหมดได้โดนจับรวมถึงรัล มิลจิด้วย (ยกเว้นอาเรีย เพราะเธอไม่ใช่อัลโกบาเลโน่) โดยหลังจากที่สึนะช่วยพวกนั้นมาได้ก็ได้ช่วยกันกำจัดเวลเด้แต่ตัวแรกเป็นหุ่นยนต์จึงเสียแรงฟรีเปล่าๆ แต่สึนะได้รู้สึกว่ามีฐานทับลับของเวลเด้อยู่ใกล้ๆ พวกสึนะจึงผ่านการทดสอบ
การทดสอบรอบแปด : การทดสอบของรีบอร์น (รอบสอง) ทดสอบด้ายความเชื่อใจและความพยายาม โดยตอนที่พวกสึนะฝึกกับเวลเด้ผ่านและได้พลังอัศนีของเวลเด้มา รีบอร์นก็ให้ผ่านการทดสอบ เพราะสึนะต้องการทดสอบกับรีบอร์นอีกรอบรีบอร์นเห็นว่ามีความพยายามจึงให้ผ่านไปเลย -->
ภาค Choice[แก้]
หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาอาลัยที่ครอบครองแหวนมาเล่ริงและแหวนมาเล่ริงทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับอิริเอะโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น อิริเอะโชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกันจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะคือมอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่องชน เพื่อใช้ในการแข่ง Chioce War กับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะโชอิจิและสปาน่า ทางฝ่าย 6 บุปผาอาลัยได้สุ่มตัวแทนคือ เดซี่ (อรุณ) คิเคียว (เมฆา) โทริคาบูโตะ (สายหมอก) และอัศวินมายา ในระหว่างการต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิเคียว (ตาย) ฝ่ายวองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียคุรัน ทันใดนั้น ยูนิก็เดินมาขอให้เบียกคุรันถือผลการแข่งขันว่าเป็นโมฆะและจะลาออกจากมิลฟิลโอเล่ แต่เบียคุรันไม่ยอม ขู่จะทำร้ายยูนิ แต่ว่ามุคุโร่ก็มาปกป้องยูนิและบอกว่าตัวเองนั้นยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ และรีบบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริ เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้ตามมาที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ ดีโน่ในอนาคต โรมาริโอ และคุซาคาเบะได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และเดซี่แปลงเป็นจิ้งจกอรุณ งอกแขนขาได้ ดีโน่แพ้ แต่ถูกจัดการโดยฮิบาริโดยอาวุธกล่องวองโกเล่ "กุญแจมือของอลาวดี้" คนอื่นรออยู่ที่ฐานทัพลับ ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมกับการปรากฏตัวของซาคุโร่ (วายุ)
ภาค Final Battle[แก้]
ซาคุโร่เข้ามาในฐานทัพวองโกเล่และเยาะเย้ยดูถูกพวกของสึนะ จนยามาโมโตะ และโกคุเดระทนไม่ไหวจึงจะเข้าไปสู้ แต่สควอโล่มาขวางไว้และบอกว่าจะเป็นคนไปสู้เอง และบอกให้พวกสึนะพายูนิหนีไปสึนะและพวกจึงคิดว่าจะหนีไปซ่อนที่ไหน และแล้วฮารุก็บอกว่าให้ไปที่ร้านอาหาร เพราะฮารุรู้จักกับคนในร้าน ในขณะที่กำลังจะไปเสียงร้องของสควอโล่ก็ดังขึ้น พวกสึนะจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าสควอโล่บาดเจ็บสาหัส แขนขาดไปหนึ่งข้าง และฐานวองโกเล่ก็พังยับเยินด้วยฝีมือของ ซาคุโร่ สควอโล่บอกให้พวกสึนะไปโดยเร็วที่สุด พวกสึนะจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึงกลับพบว่าร้านปิด จึงตะโกนเรียกทันใดนั้นก็มีชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อคาวาฮิระ ออกมาบอกว่าเจ้าของร้านเสียไปแล้ว และ ก็บอกกับพวกสึนะว่าให้เข้ามาหลบก่อน คาวาฮิระช่วยไล่ซาคุโร่ไปยังภูเขาไฟฟูจิ และหลังจากนั้นคาวาฮิระก็ได้ให้พวกสึนะฝากร้านไว้ แต่กลับโดนโทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่แกมม่ามาช่วยทัน โทริคาบุโตะแปลงเป็น ไนท์เบน ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก สึนะกำลังลำบาก โคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอา"เลนส์ปีศาจของดี.สเปด"มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X-Burner ของสึนะและถอยทัพไป ทางด้านเบียกคุรันที่นอนซมไข้เพราะใช้วิชามองอนาคตตามหายูนิก็กำลังให้ไอริสจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่งชื่อ โกสต์ ที่คุกวินดิเช่ ฟรานได้ปลอมตัวเป็นไอริสแล้วแล้วขออนุญาต โรคุโด มุคุโร่ และได้เจอกับเคน จิคุสะและ M.M พวกสึนะได้เดินทางกลับไปที่ป่าที่มีโลงศพของสึนะ และได้พักแรมที่นั่น แกมม่า โนซารุและทาซารุได้มีปากเสียงกับโกคุเดระและอิริเอะ โชอิจิ แต่ยูนิมาห้ามไว้แล้วเล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจากลูเช่หรือคุณยายของยูนิ รัล มิลจิ ได้บอกความจริงว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (ซึ่งเป็นสาเหตให้ลูเช่กับอาเรีย ได้ป่วยและเสียชีวิต) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถพิเศษจะยิ่งเสื่อมไป แต่ยูนิได้บอกกับทุกคนว่าเธอรู้มานานแล้วว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเบียคุรันในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้นวองโกเลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม ที่ 1 ดักอยู่ริมทะเลสาบ กลุ่มที่ 2 ดักอยู่ที่ป่า และกลุ่มที่3 เป็นกองกำลังปกป้องยูนิ กลุ่มแรกเรียวเฮ แรมโบ้ได้เจอกับคิเคียว (เมฆา) และคิเคียวก็ได้ใช้กล่องแร็พเตอร์ลงมือทำร้ายกลุ่มหนึ่งก่อน พอเห็นแรมโบ้ดูเหมือนจุดอ่อนจึงให้ฝูงแรพเตอร์เล็งไปที่แรมโบ้ เรียวเฮจึงงัดทีเด็ดโดยพูดให้แรมโบ้คิดถึงแม่ของสึนะ ด้วยความคิดถึงแม่ของสึนะแรมโบ้ร่างเด็กได้จุดไฟอัสนีที่แหวนขึ้นโดยไม่รู้ตัวและเปิดกล่องวองโกเล่ ได้มีกระทิงอัสนีออกมาและแคมบิโอฟอร์มม่าเป็นเกราะอัศนี (โล่ของแรมโพ) จัดการฝูงแรพเตอร์จนหมดแล้วต่อมาพวกวาเรียและพวกของโรคุโด มุคุโร่ได้เดินทางมาที่นามิโมริซันซัสได้จัดการคิเคียว (ไม่ตาย) จากนั้นโกส (ธาตุอัสนีของมิลฟีโอเล่) ก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนและได้ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของกลุ่ม1และ2ไปจนหมดรวมทั้งซันซัสด้วย จากนั้นรีบอร์นบอกสึนะให้ไปช่วย (ที่จริงโกสเป็นแค่กลุ่มก้อนไฟเท่านั้น) สึนะได้ใช้วิชา เดือดทะลุจุดศูนย์ดัดแปลง ศึกครั้งนี้เป็นศึกดูดพลัง และแล้วโกสก็สลายไป จากนั้นก็มาถึงจุดวิกฤตสุดๆ คือ เบียคุรันปรากฏตัวสึนะได้สู้กับเบียคุรันแต่สู้ไม่ได้ รุ่นที่1 จึงปลดปล่อยพลังของสึนะๆจึงมีพลังของแหวนให้ และยูนิกับแกมม่าจะยอมสละชีพเพื่อคืนชีพให้กับอัลโกบาเลโน่ทั้งหมด สึนะจึงใช้ x-burner สังหารเบียคุรัน ศึกครั้งนี้เบียคุรันตาย ยูนิและแกมม่าได้สละชีวิตเป็นที่เสียใจของทุกคน แล้วทุกคนก็ได้กลับอดีต
ภาค สืบทอดมรดก[แก้]
ชิม่อนแฟมิลี่รุ่นที่ 10 โคซาโตะ เอ็นมะ เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต เมื่อสมัยรุ่นที่ 1 ได้ย้ายโรงเรียนมาที่โรงเรียนนามิโมริ และได้ต่อสู้แก้แค้น กับวองโกเล่แฟมิลี่ในช่วงที่กำลังมีพิธีสืบทอดมรดกจากรุ่นที่ 9 ชิม่อนแฟมิลี่ได้ช่วงชิง "บาป" ซึ่งคือเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 (ชิม่อน โคซาร์ท) ชิม่อนแฟมิลี่ได้จับตัว โครม โดคุโร ไปและได้ทำลายเหวนวองโกเล่ทิ้งเหลือเพียงไม่กี่วงแต่ ผู้เฒ่า ทัลบอล ก็ปรากฏตัวขึ้น ได้ซ่อม และอัพเกรดแหวนวองโกเล่ให้เป็นวองโกเล่เกียร์ โดยใช้เลือดของวองโกเล่รุ่นที่ 1 จิอ๊อตโต้ มีพลังมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้สามารถมีพลังทัดเทียม ชิม่อนริง ที่ได้รับเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 โคซาร์ท ในการต่อสู้กันของวองโกเล่แฟมิลี่ และ ชิม่อนแฟมิลี่ ในรุ่นที่ 10 นั้น เกิดขึ้นที่เกาะแห่งหนึ่ง เป็นการต่อสู้ที่เหมือนเล่นเกมกัน ไม่จำเป็นต้องน็อคคู่ต่อสู้ เมื่อจบการต่อสู้แต่ละคู่ วินดีเช่ ได้เปิดเผยนิมิตเหตุการณ์จริงในสมัยรุ่นที่ 1 ในแก่ ว่องโกเล่แฟมิลี่ และชิม่อนแฟมิลี่ ทราบทีละเหตุการณ์สำคัญ และผู้แพ้ต้องถูกนำตัวขังคุกน้ำ ของวินดีเช่ ตลอดกาล โดย
คู่แรก ซาซางาวะ เรียวเฮ กับ อาโอบะ โคโย ได้ผลเป็น เสมอ (ถือว่าแพ้ทั้งคู่)
คู่ที่สอง แรมโบ้ กับ โอย่าม่า ราวจิ ได้ผล แรมโบ้ ชนะ (โดย แรมโบ้หนุ่มออกมาต่อสู้ให้)
คู่ที่สาม โกคุเดระ ฮายาโตะ กับ ซิท พี ได้ผล โกคุเดระ ฮายาโตะ ชนะ
คู่ที่สี่ ฮิบาริ เคียวยะ กับ ซูซูกิ อดีลไฮด์ ได้ผล ฮิบาริ เคียวยะ ชนะ
โดยก่อนหน้าพิธีรับสืบทอดมรดก ยามาโมโตะ ทาเคชิ ถูก มิซูโนะ คาโอรุ 1 ใน ชิม่อนแฟมิลี่ ทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เข้าร่วมศึกไม่ได้ แต่ภายหลังได้ไปตามไปสมทบ คาดว่าได้เบียคุรันช่วยไว้
คู่ที่ห้า ซาวาดะ สึนะโยชิ กับ โคซาโตะ เอ็นมะ ซึ่งเอ็นมะ ได้รู้ความจริงแล้วว่า พรีโม่ จิอ๊อตโต้ ไม่ได้ทรยศ โคซาร์ท แต่ถูกพลังของแหวนควบคุม ได้ผลเป็น ซาวาดะ สึนะโยชิ ชนะ
ระหว่างนั้น คาโต้ จูลี่ย์ 1ในชิม่อนแฟมิลี่ ได้ถูกเดม่อน สเปดสิงร่าง และยังควบคุมจิตใจของ โครม โดคุโร หลอกล่อให้ โรคุโด มุคุโร่ ออกมาสู้กับตน
คู่ที่หก โรคุโด มุคุโร่ (ในร่างโครม โดคุโร) กับ เดม่อน สเปโด้ (ในร่างคาโต้ จูลี่ย์) ได้ผล โรคุโด มุคุโร่ ชนะ
เมื่อ เดม่อน สเปโด้ แพ้ได้ออกจากร่างของ คาโต้ จูลี่ย์ ไปสิงร่างของ โรคุโด มุคุโร่ ในคุกวินดีเช่แทน ทั้งหมดของแผนของเดม่อน สเปดที่ต้องการทำให้วองโกเลแฟมิลี่ที่เอลีน่า คนที่เดม่อน สเปโด้รักที่สุด เป็นแฟมิลี่ที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากยึดร่างของ โรคุโด มุคุโร่ แล้วนั้น ก็ได้อาละวาด แหกคุกมาจัดการพวกวองโกเล่ ในขณะที่ โรคุโด มุคุโร่ กลับร่างตัวเองไม่ได้ จึงสิงที่นกฮูกสายหมอกแทน เรื่องทั้งหมดเป็นการวางแผนกันของพรีโม่ และโคซาร์ท โดยให้ พวกวินดีเช่ทำหน้าที่ วินดีเช่ได้ขอให้ ซาวาดะ สึนะโยชิ จัดการ เดม่อน สเปด เพื่อแลกกับการปล่อยตัวทุกคนออกจากคุกน้ำแห่งวินดีเช่
ในการต่อสู้ ของ เดม่อน สเปโด้ที่ยึดร่าง โรคุโด มุคุโร่ ได้สำเร็จนั้น มีพลังมากมาย และสามารถใช้พลังของวองโกเล่ และ ชิม่อน รวมกันได้ ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่สามารถต่อสู้ได้ ระหว่างนั้นชิม่อนริงของ เอ็นมะ ไปบินไปหา สึนะ แหวนทั้งสองเกิดการรวมกัน ซึ่งแหวนที่ได้ คือกุญแจดอกสุดท้ายที่มีความทรงจำระหว่างวองโกเล่ กับ ชิม่อน รุ่นที่ 1 จากการเสียสละของ เอ็นมะ ที่ได้ใช้ตัวเองล็อกตัวเดม่อน สเปดไว้ แล้วให้สึนะยิง X Burner และ โครม โดคุโร่ ได้ใช้พลังแห่งหมอก ร่วมกับนกฮูก ปกป้องเอ็นมะ ไว้ได้ เดม่อน สเปโด้ จึงพ่ายแพ้ไป และได้เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวกับเอลีน่าให้พวกสึนะฟัง
ภาคคำสาปสายรุ้ง[แก้]
หลังจากจบภาคสืบทอดมรดก มาม่อนได้รับจดหมายจากรีบอร์นเรื่องการกลับสู่ร่างเดิม ซึ่งมาม่อนเห็นเป็นกระดาษเปล่าซึ่งนั้นเป็นรหัสลับเฉพาะของอัลโกบาเลโน่ต้องใช้แสงของพลังไฟจากจุกนมจึงจะมองเห็น ซึ่งในจดหมายนั้น เป็นการบอกเล่าคำสาปที่ทำให้อัลโกบาเลโน่เป็นเด็กตัวเล็กๆและในจดหมายก็บอกไว้ว่าอาจทำให้เหล่าอัลโกบาเลโนเป็นอย่างเดิมได้ ทั้งที่มาม่อนยังอ่านจดหมายไม่จบก็โดน เบล พาไปที่ห้องอาหารเพื่อประชุม หลังจากที่มาม่อนมาแล้วสเปลบีก็บอกหัวข้อประชุมคือ จะให้ช่วยหาหัวหน้าคนใหม่ของวาเรีย.. ซึ่งนั้นก็คือฟราน หลังจากจบการประชุม มาม่อนก็ไปหาที่ลับในการอ่านจดหมายต่อแต่มีส่วนนึงที่อ่านไม่ได้ซึ่งนั้นก็เป็นส่วนสำคัญมากด้วย จากนั้นวาเรียก็พากันเดินทางไปที่ ฝรั่งเศสซึ่งฟรานอยู่ที่นั้นและที่นั้นก็มี จุกนมฤดูใบไม้ผลิอยู่ด้วยซึ่งจุกนมฤดูใบไม้ผลิจะทำให้พลังแสงของจุกนมสว่างขึ้น ทำให้อ่านส่วนที่อ่านไม่ออกได้ พอมาถึงฝรั่งเศส ก็เดินทางไปที่บ้านของฟรานและเจอกับย่าของฟราน พอถามก็พบว่าฟรานอยู่ที่น้ำตก พอวาเรียไปที่น้ำตกก็เจอกับ โรคุโด มุคุโร่ กับเพื่อนของเขาซึ่งทั้ง2 ก็มาตามหาตัวฟรานเหมือนกัน พอเจอฟรานก็พบว่าฟรานนั้นไม่ได้ใส่หมวกกบแต่ใส่หมวกแอ๊ปเปิ้ลแทน จังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจที่ตัวฟรานมาม่อนก็อาศัยโอกาส ไปหาจุกนมฤดูใบไม้ผลิ พอไปถึงก็พบกับเหล่าอัลโกบาเลโน่ ซึ่งแต่งละคนก็อ่านจดหมายส่วนนึงไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่ออัลโกบาเลโน่นำกระดาษมารวมกันแล้วใช้จุกนมที่ส่องแสงไปพร้อม ๆ กัยจะทำให้เห็นส่วนที่ขาดไป ซึ่งในนั้น มีข้อความเกี่ยวกับไฟธาตุที่8 กับเบอร์มิวด้า วอน-วิตเท่นสไตน์ และอัลโกบาเลโน่ที่จุกนมสีใส!!?และต่อจากนั้น รีบอร์นก็ได้นึกย้อนถึงช่วงเวลาที่ตนได้กลายเป็นอัลโกบาเลโน่ ซึ่งได้พบกับเหตุการ์ณที่ได้เจอบุรุษผู้หนึ่งชื่อ " เช็คเกอร์เฟส "ซึ่งต้องการให้เกิด"คำสาปจากสีรุ้ง" ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วคือการสาปคำสาปอัลโกบาเลโน่และบุรุษผู้นั้นจะทำ...ให้อัลโกบาเลโน่ค้นหาตัวแทนมาต่อสู้กันโดยผู้ชนะจะได้ลบคำสาบและกลับไปเป็นร่างเดิม โดยให้อัลโกบาเลโน่แต่ละคนหาบอส มา 1 คน และลูกน้องไม่เกิน 6 คน เพื่อมาต่อสู้ โดยจะมีการต่อสู้ทุกวัน โดยการสุ่มเวลา ซึ่งแต่ละรอบมีเวลาไม่เหมือนกันแล้วแต่กำหนด ซึ่งหากนาฬิกาบอสถูกทำลายจะแพ้ทันที ในการแข่งขันหากอัลโกบาเลโน่พบว่าลูกทีมของตัวเองไม่สามารถสู้ไหวหรือเกิดเหตุใดๆขึ้น จะสามารถลบล้างคำสาบได้ชั่วคราวโดยการพูดว่า "ขอของขวัญ" กับนาฬิกาของตัวเอง จะทำให้อัลโกบาเลโน่ถูกลบล้างคำสาปชั่วคราวและทำให้กลับคืนสู่ร่างเดิมได้ (แต่มีเวลาจำกัด) ซึ่งอัลโกบาเลโน่ที่ปลดคำสาปแล้วคือ สกัล ปลดคำสาปเพื่อช่วยเอ็นมะจากทีมมาม่อน , โคโรเนโร่ ปลดคำสาปเพื่อจัดการทีมสึนะ เบียกคุรัน และมุคุโร่ซึ่งกำลังต่อสู้กันอยู่ , ฟง ปลดคำสาปเพื่อช่วยฮิบาริจากทีม XANXUS ซึ่งฟงเป็นคนแรกที่ใช้ของขวัญจนหมด , มาม่อน ปลดคำสาปเพื่อช่วย XANXUS จากฟงที่ปลดคำสาปแล้ว , รีบอร์น ปลดคำสาปเพื่อช่วยสึนะจากอิเอมิสึ และให้คำแนะนำสึนะ ซึ่งสมาชิกของ แต่ละทีมในการแข่งขัน "ศึกตัวแทนสีรุ้ง"
ทีมรีบอร์น หัวหน้าคือ สึนะ [ลูกน้องคือ โกคุเดระ ยามาโมโตะ ดีโน่ เรียวเฮ] ทีมยูนิ หัวหน้าคือเบียคุรัน และ แกมม่า (สลับกัน) [ลูกน้องคือโนซารุ ทาซารุ โทริคาบุโตะ บลูเบล คิกเคียว ซาคุโร่ ] ตอนนี้โดนทำลายนาฬิกาบอส โดยโคโรเนโร่ร่างลบคำสาบ ทีมฟงหัวหน้าคือ ฮิบาริ [ไม่มีลูกน้อง] ตอนนี้โดนทำลายนาฬิกาบอสโดยฮิบาริเอง ทีมโคโรเนโร่หัวหน้าคือ ซาวาดะ อิเอมิสึ [ลูกน้องคือ บาจิล รัลมิลจิ โอเลกาโน่ ] ทีมสกัลหัวหน้าคือ โคซาโตะ เอ็นมะ [ลูกน้องคือ ชิทพีจัง จูลี่ย์ อเดลไฮค์ โคโยะ ราวจิ คาโอรุ] ตอนนี้โดนแย่งชิงนาฬิกาของทั้งทีมโดยอัลโกบาเลโน่จุกนมสีใส "เบอร์มิวด้า" และพวกวินดีเซ่ ทั้งทีมอยู่ในสภาพปางตาย ทีมเวลเด้หัวหน้าคือ โรคุโด มุคุโร่ [ลูกน้องคือ จิคุสะ เคน ฟราน MM] ทีมมาม่อนหัวหน้าคือ ซันซัส [ลูกน้องคือเบลเฟกอล สคอลโล่ ลุสซูเรีย เลวี่]
หลังจากนั้นเช็คเกอร์เฟคก็ได้ประกาศว่าทีมเบอร์มิวด้านั้นจะเข้าร่วมศึกตัวแทนสายรุ้งด้วยเช่นกัน ยูนิจึงบอกอัลโกบาเลโน่คนอื่นๆว่า ยูนิได้สัมผัสถึงตัวตนของเบอร์มิวด้ามานานแล้ว แต่พอคิดเท่าไหรก็จะเห็นแต่หน้าเช็คเกอร์เฟสและทำให้หัวใจยูนิเจ็บปวด ขณะเดียวกัน พวกสึนะก็ไปเยี่ยมพวกสกัลและชิม่อนแฟมมิลี่และก็ได้เจอเคียวโกะและรู้ว่าโคลมก็เข้าโรงพยาบาลเช่นกัน แต่โคลมกลับขอสึนะร่วมการแข่งขันแต่สึนะยังไม่ได้ตอบตกลง
การจู่โจมจากวินดีเช่ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านไป แต่ปรากฏว่าทุกๆคนเช่นพวกสึนะ , พวกอิเอมิสึ , วาเรีย , กลุ่มโกคุโยของมุคุโร่ ได้สัมผัสถึงพลังไฟธาตุที่ 8 และพวกเขาก็ได้เจอกับวินดีเช่ ซึ่งรัลคิดว่าพวกเขาแหกกฎแต่อิเอมึสิสังเกตได้ว่าพวกวินดีเช่ไม่ได้ใส่นาฬิกา ทางด้านมุคุโร่ มุคุโร่กำลังล่อวินดีเช่เพื่อให้ลูกน้องของเขาหนีไป รวมถึงคนอื่นๆที่เข้าแข่งขันก็กำลังต่อสู้กับวินดีเช่ แต่พวกอัลโกบาเลโน่นั้นได้รวมตัวกันอยู่ที่โรงพยาบาลและดูอาการสกัล ซึ่งอัลโกบาเลโน่ทุกคนนั้นก็ยังสงสัยว่าเบอร์มิวด้าเป็นใครกันแน่ และขณะที่รีบอร์นกำลังจะไป โคโร่เนโร่ก็ถามว่าเหตุผลที่รีบอร์นเข้าร่วมการต่อสู้คืออะไร และมาม่อนก็ถามว่เหตุผลที่รีบอร์นให้ดีโน่ไปช่วยฮิบารินั้นคืออะไร แต่รีบอร์นกลับไม่ตอบและ และบอกว่าเร็วเกินไปที่จะเข้าใจ พอรีบอร์นไป ฟงจึงเฉลยว่ารีบอร์นอาย เพราะตั้งแต่เริ่มการต่อสู้นั้นรีบอร์นไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับคำสาปอยู่แล้ว แต่เป้าหมายของรีบอร์นคือทำให้สึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่ 10 ให้ได้ ดังนั้นรีบอร์นจึงให้สึนะสร้างทีมขึ้นมาด้วยเหล่าผู้พิทักษ์และแฟมมิลี่พันธมิตร จับคู่กับเหล่านักสู้ต่างๆ เช่น xanxus , เบียกคุรัน เพื่อให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ , ให้คำแนะนำกับสึนะตอนที่ปลดคำสาบ และให้ดีโน่ไปช่วยฮิบาริเพื่อให้กำลังใจของทั้ง 2 ฝ่ายดีขึ้น ซึ่งต่างกับอัลโกบาเลโน่คนอื่นๆที่ต้องการปลดคำสาปของตัวเอง
- ล่าสุด ทีมรีบอร์นและเวลเด้เป็นพันธมิตรกันชั่วคราวและร่วมต่อสู้กับวินดีเช่และค้นพบตัวตนของวินดีเช่ ซึ่งเป็นร่างมนุษย์คล้ายซอมบี้ และมีจุกนมอัลโกบาเลโน่ที่ไม่มีสีอยู่ สึนะจึงได้ ร่วมมือกับ โรคุโร มุคุโร ปราบวินดีเช่ทั้ง 2 คนได้สำเร็จ แต่เมื่อวินดีเช่ที่ชื่อว่า เบอร์มิวด้าปรากฏตัวพร้อมกับ วินดีเช่อีกคนนึงมีนามว่าแจ๊คเกอร์ ทำให้ รีบอร์นและสึนะ ถูกดูดเข้าไปในอีกมิติ หนึ่ง ซึ่งทำให้ สึนะและรีบอร์นได้ล่วงรู้ ความลับที่สืบทอดกันมาของอัลโกบาเลโน่ และได้เจอเบอร์มิวด้าและวินดีเช่แจ๊คเกอร์ ทั้งคู่ได้ยืนข้อเสนอให้กับรีบอร์น แต่กลับถูกปฏิเสธ เพราะเชื่อในตัวของสึนะ แต่แล้วจึงได้เกิดการปะทะเล็กๆขึ้นระหว่างสึนะและผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดของวินดีเช่ แต่ก็จบลงจากการห้ามของเบอร์มิวด้า และยังทิ้งคำพูดไว้ก่อนจากว่า "ถึงนายจะรับข้อเสนอหรือไม่ นายก็ต้องตายอยู่ดี" ทำให้ สึนะ คับแค้นใจ และก็ออกมาจากมิติ ได้ด้วยการบอกทางออกของ เบอร์มิวด้า สึนะจะตัดสินใจอย่างไร อัลโกบาเลโน่ จะตายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการ ตัดสินใจและความคิดของสึนะ หลังจากนั้น 1 วัน สึนะได้ ไปหาลุง ทัลโวล เพื่อปรึกษาเรื่องอัลโกบาเลโน่ และได้ไปหา XANXUS,โรคุโด มุคุโร่,ฮิบาริ,เอ็นมะ,เบียกคุรัน เพื่อขอความช่วยเหลือ และนัดประชุมที่ บ้านของสึนะ และได้ลงมติ ว่า จะทำตามแผนของสึนะที่วางไว้ และเริ่มแผนการ เมื่อการต่อสู้ครั้งที่4เริ่มขึ้น สึนะ เอนมะ และ บาจิล ได้แยกกันสู้ คนที่สู้กับวิดิเช่ คือ ดีโน่ ซันซัส สคอโร่ และ เบียกรัน ได้เสียท่าให้พวกวิดิเช่ และ ระหว่างนั้นสึนะได้สู้กับลูกน้องของวิดิเช่แต่จะแพ้ โกคุเดระ กับ ยามาโมโตะ ได้ช่วยไว้ ในระหว่างนั้น ฮิบาริได้มาช่วยไว้ได้ แต่ฮิบาริก็เสียท่าในที่สุด หลังจากนั้นสึนะ จึงรีบมาช่วย เบอร์บิวด่าใช้วาปได้อย่างไม่จำกัด จึงทำให้สึนะจะเสียท่า แต่สึนะใช้ แหวนวองโกเล่ และ ชิม่อนรวมกันแต่ก็ไม่สามารถโค่นเบอร์มิวด้า แต่รีบอร์นได้ขอรางวัลเพื่อให้ตัวเองโตมาเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง เพื่อช่วยสึนะโดยการยิงกระสุนดับเครื่องชน ทำให้สามารถล้มเบอร์มิวด้าได้ แล้วทีมที่ชนะตกเป็นฝ่ายของรีบอร์น แต่ศึกทั้งหมดทำขึ้นเพื่อหาอัลโบาเล่โน่รุ่นใหม่ แต่เช็คเกอร์เฟสก็ปรากฏ และมีอีกร่างนึงเป็นคุณลุงคาวาฮิระในโลกอีก 10 ปีข้างหน้านั่นเอง โดยไม่สามารถมีใครต่อสู้ได้ เพราะเป็นคนที่มีพลังมากและเป็นเผ่าพันธ์แรกๆของโลก เหมือนกับยูนิ ในตอนนั้นคุณลุงทัลโวก็มาพร้อมกับเครื่องเก็บพลังแทนจุกนมอัลโกบาเล่ ทำให้อัลโกบาเล่โนรอดพ้นจากคำสาป โดยมีเบอร์มิวด้าเป็นผู้ดูแลเครื่องเก็บพลังจุกนมไว้ แบบรัติกาล
ตัวละคร[แก้]
รีบอร์น (ญี่ปุ่น: リボーン Ribōn ?) พากษ์เสียงโดย นีโก้ เจ้าของจุกนม สีเหลือง ทารกที่เป็นนักฆ่าแห่งวองโกเล่ แฟมิลี่ และเป็นนักฆ่าที่หัวหน้าวองโกเล่ แฟมิลี่รุ่นที่ 9 ไว้ใจมากที่สุด ปรากฏตัวในฐานะครูสอนพิเศษของสึนะเพื่อฝึกฝนให้สึนะเป็นหัวหน้าวองโกเล่ แฟมิลี่รุ่นที่ 10 เป็นคนที่ปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ทุกรูปแบบอยู่เสมอเวลาที่รีบอร์นปรากฏตัวทุกครั้งจะต้องพูดคำว่า "ดีจ้า" เพื่อเป็นการทักทายเสมอ และทุกครั้งจะปรากฏตัวออกมาด้วยเสื้อผ้ารูปแบบต่างๆโดยที่คนอื่นไม่ได้สังเกตยกเว้นสึนะคนเดียว รีบอร์นมักจะซ่อนตัวตามซอกตึกรอบๆเมืองเพื่อคอยดูสึนะ นอกจากนี้ยังสื่อสารกับแมลงที่คอยหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆให้ได้อีกด้วย ตั้งแต่ที่รีบอร์นเข้ามาเป็นนักฆ่าสังกัดวองโกเล่ แฟมิลี่เต็มตัวก็ได้รับภารกิจให้มาฝึกฝนสึนะโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยแม้แต่ครั้งเดียว เว้นเสียแต่ว่าจะยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่สึนะให้แก้ไขสถานการณ์ต่างๆด้วยตัวเอง ในภาคอนาคต รีบอร์นได้ถูกกล่าวว่าได้ตายไปแล้ว โดยรีบอร์นในอดีตที่ถูกบาซูก้าทศวรรษยิงเข้ามาต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงนอนทูรินิเซบเต้ (None Turinesepte) โดยตรงและอาศัยอยู่ในฐานทัพใต้ดินของวองโกเล่กับยามาโมโตะ และสวมใส่ชุดพิเศษ ถึงแม้ว่าเงาของรีบอร์นเป็นผู้ใหญ่ แต่ภาพที่ปรากฏก็ยังเป็นตัวรีบอร์นที่ยังเป็นทารกอยู่ ทุกครั้งรีบอร์นจะปรากฏตัวต่อหน้าผู้อื่นในหลากหลายรูปแบบ และมีชื่อแตกต่างกันออกไป
โกคุเดระ ฮายาโตะ (ญี่ปุ่น: 獄寺 隼人 Gokudera Hayato) พากษ์เสียงโดย ฮิเดคาซุ อิจิโนเสะ เป็นนักเรียน แลกเปลี่ยนจาก อิตาลี มีฉายาว่า "สโมคกิ้ง บอมบ์ ฮายาโตะ" (ญี่ปุ่น: 隼人 Herriken Bomu Hayato ?) มีความหวังที่จะเป็น มือขวาของรุ่นที่10 ( ซาวาดะ สึนะโยชิ ) โดยเก็บระเบิดจำนวนมากไว้ทั่วร่างกาย ภายหลัง ดร.ชามาล ได้สอนวิธีการดัดแปลงการใช้ระเบิด ทำให้ระเบิดหักเลี้ยวได้สองครั้ง ใช้ชื่อว่า "ร็อกเก็ต บอมบ์" ทำให้ขึ้นนำเบลเฟกอลในศึกชิงแหวนได้ แต่ได้พ่ายแพ้ให้เบลเฟกอลไปในที่สุด ไฟธาตุวายุ (สีแดง) ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าจะได้อาวุธใหม่ชื่อว่า เฟรมแอโรว์ ใช้ระเบิดเป็นกระสุน (แต่ตอนหลังใช้กระสุนที่ได้จากการเปิดกล่อง ซิสเทม่า ซีเอไอ) มีวองโกเล่เกียร์ ( Vongola Gear ) ในภาคชิม่อนแฟมิลี่เป็นสายคาดระเบิดทั่วร่างกายพร้อมกับที่ยิงระเบิดที่มือขวา ส่วนแหวนได้ถูกพัฒนาเป็นเข็มขัดที่มีหัวเป็นรูปอุริ (แพนเทร่า ดิ เทมเพสต้า) ของโกคุเดระ
ยามาโมโตะ ทาเคชิ (ญี่ปุ่น: 山本 武 Yamamoto Takeshi) พากษ์เสียงโดย สึงุรุ อิโนะอุเอะ
เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่ 2 และเป็นนักเบสบอลของโรงเรียนนามิโมริ เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทกับสึนะหลังจากที่แข่งวอลเล่บอล สึนะก็แข่งด้วยจึงชนะ และเป็นเพื่อนสนิทของสึนะ และถูกรีบอร์นชักชวนเข้าวองโกเล่แฟมิลี โดยที่เจ้าตัวนึกว่าแค่เล่นกันเฉยๆเท่านั้น เป็นผู้พิทักษ์แห่งพิรุณ (ฝน) ของสึนะ ในอีก 10 ปีต่อมากลายเป็นหนึ่งในสองคนที่เป็นนักดาบฝีมือฉกาจในวองโกเล่แฟมิลี่ คือ1 สเปลบี สควอโล่และ2คือ ยามาโมโตะ ทาเคชิ มีไฟธาตุพิรุณ (สีฟ้า) สัตว์ในกล่องคือจิโร่ (คาเน่ ดิ พิออจชา = หมาอากิตะพิรุณ) คอยดูแลดาบสั้นสามเล่ม และโคจิโร่ (ลอนดีเน่ ดิ ฟีออจชา = นกนางแอ่นพิรุณ)
ซาซางาวะ เรียวเฮ (ญี่ปุ่น: 笹川 了平 Sasagawa Ryohei) พากษ์เสียงโดย ฮิเดโนบุ คิอุจิ พี่ชายของเคียวโกะ เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ฉายาตามในหนังสือการ์ตูนคือ"สุดหูรูด" ในเนื้อเรื่องคติประจำใจเรียวเฮคือ"สุดขั้ว" เป็นคนจริงจัง เป็นลูกศิษย์ของโคโรเนโร่ หนึ่งในอัลโกบาเลโน่ เป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอรุณ เนื่องจากมีความเจิดจ้าในตัวเอง สามารถใช้มือเปล่าต่อยก้อนหินขนาดยักษ์ให้แหลกละเอียดได้ โดยมีชื่อท่าว่า แม็กซิมั่มแคนน่อน 10ปีข้างหน้าได้คิดค้นท่า แม็กซิมั่มอินแกรม ไฟธาตุอรุณ (สีเหลือง) รหัสประจำตัวของเรียวเฮคือ 33 อาวุธ กล่อง แหวนแห่งอรุณ นวม ท่าไม้ตาย แม็กซิมั่มแคนน่อน แม็กซิมั่มอินแกรม สัตว์กล่องคือกังการิว(แกงกูโร เดล เซเลโน่ = จิงโจ้อรุณ)
ฮิบาริ เคียวยะ (ญี่ปุ่น: 雲雀 恭弥 Hibari Kyoya) พากษ์เสียงโดย ทาคาชิ คอนโดะ ฮิบาริเป็นหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบของโรงเรียนม.ต้นนามิโมริ อายุ16 เกิดวันที่ 5 พฤษภาคม กรุ๊ปเลือด เอบี รักโรงเรียนและเมืองนามิโมริมาก ถึงขนาดจบไปแล้วก็ยังมาโรงเรียน และใช้เพลงโรงเรียนนามิโมริเป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ มีอาวุธคือทอนฟา เกลียดการสุมหัวเพราะเจ้าตัวคิดอยู่เสมอว่า 'เพราะอ่อนแอเลยต้องอยู่รวมกันเป็นฝูง' มีคำติดปากคือ "ว้าว" และ "ฉันจะขย้ำแกให้ตาย (ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า Kamikorosu)" เกลียดภาพมายาและผู้ใช้มายาอย่างที่สุด เพราะเคยพ่ายแพ้ให้กับโรคุโด มุคุโร่ มาก่อน(อ้างอิงมาจากตอนที่ 127 ดอกไม้ประหลาด) ในอีก 10ปี ต่อมาเป็นคนที่รู้เรื่องแผนการส่งพวกสึนะจากอดีตมายังอนาคต เป็นผู้พิทักษ์แห่งเมฆา ไฟธาตุเมฆา (สีม่วง) มีอาวุธกล่องคือทอนฟาที่เคลือบไฟเมฆา ส่วนสัตว์กล่องคือโรล(พอลคอสสปิโน่ นูโวล่า = เม่นเมฆา)
แรมโบ้ (ญี่ปุ่น: ランボ Lambo) พากษ์เสียงโดย จุนโกะ ทาเคอุจิ (เด็ก) , เคนจิโร่ ซึดะ (ผู้ใหญ่) เดิมทีแรมโบ้อยู่ใน โบวีโน่แฟมิลี่ ถูกส่งมาเพื่อฆ่ารีบอร์น แต่กลับลืมภารกิจของตัวเอง และกลายมาเป็นผู้พิทักษ์ของวองโกเล่ ใส่ชุดลายวัว ไว้ผมทรงแอ๊ฟโฟร่ มีเขาวัว ในผมของแรมโบ้มีสิ่งของเต็มไปหมด ใช้ระเบิด (ลูกเกลี้ยง) และเขาที่ใช้เรียกสายฟ้าเป็นอาวุธ ผิวของแรมโบ้สามารถให้สายฟ้าไหลผ่านได้ (เป็นการปรับตัวจากการโดนฟ้าผ่าซ้ำซ้อน) ปกติเขาจะพกบาซูก้าทศวรรษไว้กับตัว เมื่อใช้ยิงตัวเองจะเปลี่ยนร่างเป็นชายหนุ่มรูปงามและบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ในอีก 10 ปีต่อมา(อยู่ได้นานแค่ 5 นาที) แรมโบ้เป็นผู้พิทักษ์แห่งอัสนี ไฟธาตุอัสนี (สีเขียวอ่อน) มีสัตว์กล่องประจำตัวคือกิวด้ง(บูฟาโล่ ฟูลมิเน่ = กระทิง)
โรคุโด มุคุโร่ (ญี่ปุ่น: 六道 骸 Rokudo Mukuro) พากษ์เสียงโดย โทชิโนบุ อีดะ ชายหนุ่มอายุ 18 ปี ผู้เต็มไปด้วยปริศนาและเกลียดมาเฟียอย่างมากที่ต้องการครอบครองร่างของสึนะเพื่อที่จะได้ทำลายมาเฟีย เขาให้ลูกน้องไปทำร้ายนักเรียนโรงเรียนนามิโมริ เพื่อล่อให้สึนะมาหาตนที่โกคุโยแลนด์ เขาสู้กับสึนะในโหมดไฮเปอร์และได้แพ้ไป มีความสามารถคือ ดวงตาวัฏสงสาร เป็นการดึงความสามารถจากทั้ง6พิภพ หลังจากที่พ่ายแพ้แก่สึนะและถูกวินดีเช่จับตัวไป เขาก็ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้พิทักษ์สายหมอกโดยใช้ร่างของโคลม โดคุโร ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเขา มีไฟธาตุสายหมอก(สีคราม) เป็นผู้พิทักษ์สายหมอกของวองโกเล่
โคลม โดคุโร (ชื่อเดิม นางิ) (ญี่ปุ่น: クロームドクロ Chrome Dokuro) พากษ์เสียงโดย ซาโตมิ อาเคซากะ สาวน้อยอายุ 13 ปี สวมเครื่องแบบโรงเรียนโกคุโย ชื่อเดิมของเธอ คือ "นางิ" เธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเพราะเข้าไปช่วยเหลือแมวจนบาดเจ็บสาหัสทำให้สูญเสียตาข้างขวาและอวัยวะภายในทั้งหมด ทำให้ต้องได้รับอวัยวะจากคนกรุ๊ปเลือดเดียวกันเพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่พ่อแม่ของเธอกลับไม่สนใจเพราะพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ จนในที่สุดระหว่างที่เธอกำลังจะตายนั้นเองโรคุโด มุคุโร่ ได้เข้ามายังความฝันของเธอ โดยจะมอบชีวิตให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปพร้อมกับได้รับความสามารถของมุคุโร่มา (พิภพนรกและพิภพเดรัจฉาน) แต่เธอต้องให้เขาใช้ร่าง เธอเคารพมุคุโร่เป็นอย่างมาก และเรียกมุคุโร่ว่า ท่านมุคุโร่ เธอมีสัตว์กล่องชื่อ มุคุโร่ว(กูฟอร์ ดิ เนปเปีย = นกฮูกสายหมอก) เธอเป็นผู้พิทักษ์สายหมอกเช่นกัน
โจชิมะ เคน (Joushima Ken) ผู้ติดตาม โรคุโด มุคุโร่ อาวุธที่ใช้ เป็นเขี้ยวของสัตว์ ที่เมื่อสวมเขี้ยวของสัตว์ชนิดต่างๆเข้าไป จะสามารถแปลงร่างและใช้ความสามารถของสัตว์ชนิดนั้นๆได้ เหมือนเกมส์ที่ถ้าเปลี่ยนตลับจะเล่นเกมอื่นได้ ต่อสู้กับยามาโมโตะและแพ้ไป ในภาคอนาคตได้ร่วมมือกับโครม จิกุสะไปช่วยมุคุโร่ แต่ไม่สำเร็จ และไม่รู้ว่าเป็นอะไรบ้าง และได้ปรากฏตัวตอนภาคพรีโม่ แฟมิลี่ เพื่อช่วยสึนะจัดการกับ โกส
คาคิโมโตะ จิกุสะ (Kakimoto Chikusa) ผู้ติดตาม โรคุโด มุคุโร่ อาวุธที่ใช้ โยโย่ ที่สามารถปล่อยเข็มพิษที่อาบพิษร้ายแรงออกมาได้ เคยสู้กับโกคุเทระ รอบแรกไม่รู้ผลแพ้ชนะ แต่ครั้งสองได้ฮิบาริมาช่วย ในภาคอนาคตได้ร่วมมือกับโครม เค็นไปช่วยมุคุโร่ แต่ไม่สำเร็จ และไม่รู้ว่าเป็นอะไรบ้าง และได้ปรากฏตัวตอนภาคพรีโม่ แฟมิลี่ เพื่อช่วยสึนะจัดการกับ Ghost 1ใน6บุพผาอาลัยที่แท้จริง
ซาวาดะ อิเอมิสึ (Sawada Iemitsu) พ่อของสึนะ เป็นผู้ดูแลนอกแก๊งของวองโกเล่ และเป็นคนที่เสนอชื่อให้สึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่ 10 ผู้มีฉายาว่า ราชสีห์หนุ่มของวองโกเล่
เบียงกี้ (Bianchi) หญิงสาวที่หลงรักรีบอร์น เป็นพี่สาวคนละแม่ของโกคุเดระ ฮายาโตะ มีฉายาว่า แมงป่องพิษ ท่าไม้ตายคือ พอยด์ซั่นคุ๊กกิ้ง (Poison cooking) นรกพิษพันหมื่นสี ที่ทำให้ทุกสิ่งที่โดนแตะกลายเป็นพอยด์ซั่นคุกกิ้ง ความสามารถพิเศษคือทำอาหารอะไรออกมาก็จะเป็นพิษทั้งหมดเมื่อโกคุเทระเจอหน้าเมื่อไหร่เป็นต้องปวดท้อง เพราะเคยกินพอยด์ซั่นคุ๊กกิ้ง มากเกินไปจนกลายเป็นความหลังฝังใจ อาวุธกล่อง แมงป่องวายุ
ฟูตะ (Ranking Futa) (ชื่อเต็ม ฟูตะ เดย์เล่ สเตลเล่ย์ ) เป็นนักจัดอันดับแห่งวงการมาเฟีย ชอบสึนะมากและคิดว่าเป็นพี่ชายที่ดี (ตั้งแต่ที่พบสึนะที่ถูกยิงด้วยกระสุนดับเครื่องชนก็ถูกใจสึนะเป็นอย่างมาก) มีความสามารถในการจัดอันดับอย่างรวดเร็วและเวลาจัดอันดับทำให้รอบข้างอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ครั้งหนึ่งเคยถูกจับเป็นตัวประกัน เมื่อครั้งพวกสึนะทำศึกกับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนโกคุโย ฟูตะปิดกั้นจิตใจไม่ให้โดนล้วงความลับเรื่องที่อยู่ของสึนะ ทำให้เสียความสามารถในการจัดอันดับไป และเป็นพี่เลี้ยงแรมโบ้ไปอีก7ปี
ซาซางาวะ เคียวโกะ (Sasagawa Kyoko) เป็นน้องสาวของ ซาซางาวะ เรียวเฮ เด็กสาวน่ารัก ไร้เดียงสา ที่สึนะแอบชอบอยู่ เป็นดาวโรงเรียนชื่อดังของนามิโมริ เธอนั้นก็เป็นหนึ่งในกรรมการนักเรียนด้วย จากเหตุการณ์ที่สึนะล้มรุ่นพี่โมจิดะ ที่ชื่นชอบเคียวโกะเหมือนกัน ในคราวประลองเคนโด้นั้น ก็ทำให้เธอนั้นสนิทสนมกันสึนะมากขึ้น แต่เธอไม่เคยเอะใจว่า เด็กๆอย่าง รีบอร์น หรือ แรมโบ้ เกี่ยวข้องกับพวกมาเฟียได้ไงกัน เธอคิดว่าเป็นแค่การเล่นสนุกๆกันเท่านั้น
มิอุระ ฮารุ (Miura Haru) สาวน้อยโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังแห่งนามิโมริ (ว่ากันว่าเป็นรร.สตรีที่ไฮโซที่สุด) เป็นนักยิมนาสติกที่เก่งที่สุดคนนึงของโรงเรียน ทางบ้านรวยมากๆคุณพ่อเป็นอาจารย์คณิตที่มหาลัยแห่งนึง เป็นคนรักเด็ก ขี้เล่น คำติดปากเวลาทักทายชอบพูดว่า ฮาฮิ และชอบพูดอังกฤษคำไทยคำ (ในที่นี้อาจเป็นญี่ปุ่นคำอังกฤษ) ในตอนที่ 1 ฮารุเห็นรีบอร์นอยู่กับสึนะก็รู้สึกเอ็นดูรีบอร์นจึงพยายามจะแยกรีบอร์นออกจากสึนะเพราะคิดว่าสึนะเป็นพวกเกเรอันธพาลแต่พอสึนะโดนกระสุนดับเครื่องชนยิงเข้าแล้วกระโดดลงไปช่วยฮารุที่กำลังจะจมน้ำฮารุจึงเกิดหลงรักสึนะขึ้นมาตั้งแต่นั้นและฮารุเป็นคนตั้งชื่อนกให้ฮิบาริว่า ฮิเบิร์ด อีกด้วย
ท่าไม้ตาย และ อาวุธ[แก้]
- เลออน
สามารถแปลงร่างเป็นอาวุธและสิ่งต่าง ๆ ที่เคยพบเห็นมาแล้วได้ เป็นสัตว์เลี้ยงของรีบอร์น
- รีเฟล็กต์ มิลเรอร์ (ร่างแปลง ของ เลออน)
กลายเป็นกระจกสะท้อนพลังการโจมตี
- ปืน
นำไว้ใส่กระสุนต่างๆ ไว้ยิงธรรมดา เป็นอาวุธที่เห็นได้ทั่วไป และเห็นได้บ่อยที่สุด
- เคออส ช็อต
เป็นการยิงกระสุนที่มีแสงไฟธาตุอรุณไปที่เป้าหมาย กระสุนสามารถแยกร่างได้ เป็นท่าไม้ตายที่มีพลังสูงสุดของรีบอร์น
- ไดอิ้ง วิลล์ โหมด (โหมดดับเครื่องชน)
ร่างแปลงจากการยิงกระสุนดับเครื่องชน มีพลังที่ค่อนข้าง บ้าระห่ำ มีเวลาในโหมดนี้แค่ 5 นาที แต่พอ ภาค ปะทะ วาเรีย โหมดนี้มีเวลาคงอยู่นานขึ้น
- ไฮเปอร์โหมด
ร่างแปลงจากการยิงกระสุนเสียงบ่น โหมดนี้มีพลังสูงสุดในตัวสึนะ มีไฟที่ร้อนแรงมาก และเป็นโหมดที่ใช้บ่อยที่สุด หลังจากศึกวอริเออร์ก็ใช้ในการต่อสู้มาโดยตลอด
- ซีโร่ พอยท์ เบรกทัช รีเวิร์ส (เดือดทะลุจุดศูนย์ ดัดแปลง)
เป็นท่าไม้ตาย ที่ดูดไฟดับเครื่องชนจากศัตรูมาเป็นพลังงานของตนเอง ดัดแปลงจากเดือดทะลุจุดศูนย์ต้นตำรับ ใช้พลิกสถานการณ์ได้หลากหลาย
- ซีโร่ พอยท์ เบรกทัช เฟิร์สต์อิดิชั่น (เดือดทะลุจุดศูนย์ ฉบับต้นตำรับ)
ท่าไม้ตายเดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดั้งเดิม เป็นการแช่แข็งไฟดับเครื่องชนในสภาวะติดลบ สิ่งเดียวที่ทำลายได้คือไฟดับเครื่องชนแห่งธาตุทั้ง 7 และเป็นท่าที่วองโกเล่พรีโม่คิดค้นขึ้น ใช้เพื่อป้องกันตัวและหยุดยั้งพลังไฟที่ศัตรูปล่อยออกมาได้
- X-Burner
เป็นท่าไม้ตายที่ใช้ไฟดับเครื่องชนจากทั้งสองมือโจมตี โดยใช้พลังไฟอ่อนจากมือซ้ายค้ำจุนร่างกาย แล้วใช้พลังไฟแข็งจากมือขวาปล่อยไปหาศัตรู มีพลังทำลายรุนแรงมาก ถือเป็นท่าไม้ตายที่ใช้บ่อยที่สุดและมีพลังรองลงมาจากเบิร์นนิ่งแอ็กเซล ภายหลังได้รับการจัดสมดุลด้วยคอนแท็คเลนส์ที่สปาน่าทำขึ้นมา ทำให้มีการยิงที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
- นัตสึ
สัตว์เลี้ยงของสึนะ ออกมาจากอาวุธกล่อง เป็นสิงโตนภาตัวเล็ก แต่ความสามารถเสียงคำรามก้องนภา (ลุทจีท ดิ เชลี) ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาวะต่อสู้ก็จะมีนิสัยเหมือนสึนะ คือขลาดกลัวและขี้อาย
- X-Stream
เป็นการพุ่งไปวนรอบศัตรูโดยทิ้งไฟดับเครื่องชนไว้เป็นสายเหมือนพายุ และทำลายความสมดุลภายในร่างกาย
- บิ๊กแบง แอ็กเซล
เป็นการใช้ มิเทนา ดิ วองโกเล่ พรีโม่ (ถุงมือของรุ่นที่ 1) ต่อยไปที่ศัตรู พลังไฟมีพลังทัดเทียม X-Burner
- เบิร์นนิ่ง แอ็กเซล
เป็นการใช้แหวนวองโกเล่ ริงก์แบบต้นตำรับปล่อยไฟมหาศาลไปที่ศัตรู มีพลังสูงกว่าบิ๊กแบง แอ็กเซล ถือเป็นท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของสึนะ
- แมนเทเร ดิ วองโกเล่ พรีโม่ (ผ้าคลุมของ รุ่นที่ 1)
เป็นผ้าคลุมที่สามารถสะท้อนพลังงานทุกสิ่งของศัตรูได้
- วองโกเล่ ริงก์
แหวนนภาของสึนะ ตอนแรกเป็นแหวนเงินหัวสีน้ำเงินเข้ม จากนั้นจึงได้รับแหวนแบบต้นตำรับที่วองโกเล่รุ่นแรกเคยใช้จากจิอ๊อตโต (วองโกเลพรีโม่) แต่ก็ถูกทำลายโดยชิมอนแฟมิลี่ จากนั้นจึงได้รับการชุบจิตวิญญาณแห่งไฟขึ้นมาใหม่ โดยอยู่ในรูปของแหวนสองวง สวมที่นิ้วกลางและนิ้วก้อยโดยมีโซ่เชื่อมไว้
อาวุธกล่อง[แก้]
อาวุธกล่องเริ่มต้นขึ้นจากแบบแปลน 343 ฉบับเมื่อ 4 ศตวรรษก่อน โดยเจเพต โรเลนชินี นักชีววิทยา ถือกำเนิดขึ้นจากความคิดจะสร้างอาวุธที่มีอยู่ในธรรมชาติ แต่ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ในยุคนั้น จนกระทั่งมีนักวิจัย 3 คน คืออิโนเชนตี้ เคนิชฮ์ และเวลเด้ (1ใน7อัลโกบาเลโน่จุกนมสีเขียว) ค้นพบว่า ไฟจากแหวนของมาเฟียนั้นสามารถใช้เป็นพลังงานของกล่องได้ ต่อมา 5 ปี พวกเขาสามารถผลิตกล่องทดลองออกมาได้ ทั้งกล่องรุ่นใหม่เช่นกล่องสำหรับเก็บรักษาและกล่องอาวุธ ล้วนเป็นผลงานของพวกเขา อย่างไรก็ตาม 2 ใน 3 นักวิจัย กลับตายลงอย่างปริศนา เคนิชฮ์ที่รอดชีวิตหนีลงไปอยู่ใต้ดิน และเนื่องจากต้องการทุนในการวิจัยต่อจึงทำการขายอาวุธกล่องให้กับพวกมาเฟียในราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ
วองโกเล่ แฟมิลี่ เช่น
- ซาวาดะ สึนะโยชิ- กล่องวองโกเล่แห่งนภา 1 กล่อง มีเลโอเน่ ดิ เชลี (สิงโตนภา) ชื่อนัตสึ เมื่อแคมพิโอ ฟอร์มม่า จะกลายเป็น แมนเทโร ดิ วองโกเล่พริโม่ (ผ้าคลุมของวองโกเล่รุ่นที่ 1) มีคุณสมบัติป้องกันการโจมตีและทำให้สิ่งที่เข้ามาจู่โจมนั้นแปรสภาพไปจากเดิม และเมื่อรวมกับถุงมือ (ขณะโจมตี) แล้ว จะได้ถุงมือของรุ่นที่1ชื่อ มิเทน่า ดิ วองโกเล่พรีโม่ (ถุงมือของวองโกเล่รุ่นที่1) ว่ากันว่าเมื่อวองโกเล่พรีโม่จะจู่โจม เขาจะรวบรวมพลังไฟจากทั้งร่างกายมารวมที่มือเพียงข้างเดียวจนถุงมือเปลี่ยนสภาพไป เป็นหมัดที่มีพลังเท่าX-burner (มีสัญลักษณ์ตัวI ตรงกลาง)
- โคลม โดคุโร - อาวุธกล่องวองโกเล่ธาตุหมอก 1 กล่อง (เสริมพลังให้นกฮูกสายหมอกและหอกของโคลม) ได้รับมาจาก อิริเอะ โชอิจิ มีนกฮูกสายหมอก (กูฟอร์ ดิ เนบเปีย) ที่ถูกโรคุโด มุคุโร่ สิงอยู่ เมื่อแคมพิโอ ฟอร์มม่าจะกลายเป็นเลนส์ปีศาจของเดม่อน สเปด (D spede devil lens) ว่ากันว่าใครก็ตามที่ถูกผู้พิทักษ์แห่งหมอกรุ่นแรกมองผ่านเลนส์นี้จะถูกสาป และกลายเป็นร่างไร้วิญญาณลอยอยู่กลางทะเลอีกไม่กี่วันต่อมา ทว่าหากเป็นอาวุธกล่อง จะใช้ในการเปิดเผยความสามารถของศัตรูและมองทะลุมายาที่ศัตรูใช้ได้ โดยจะเป็นเลนส์ใหญ่สองวงลอยอยู่เหนือดวงตา และเลนส์เล็กอีกหนึ่งอันที่มีสัญลักษณ์ตัวIลอยอยู่ตรงกลางระหว่างเลนส์ใหญ่
- โรคุโด มุคุโร่ - มุคุโร่ในอนาคต มีอาวุธกล่องสายหมอก 1 กล่อง มีแหวนเฮลริงก์ 2 วง จาก สุดยอดแหวนหายาก 6 วง (แหวนสำหรับธาตุสายหมอกเท่านั้น) ยังไม่เปิดเผยความสามารถ แต่แหวนหนึ่งในสองวงที่มุคุโร่ครอบครองคือแหวนรูปดวงตาชื่อมาร็อคโคเฮลริงก์ที่ว่ากันว่าเป็นดวงตาของนักผจญภัยที่ไม่เคยกะพริบตาสักครั้งได้ควักออกมาก่อนที่จะสิ้นใจเพื่อให้ดวงตาได้อยู่ดูโลกต่อไป เป็นแหวนต้องสาปที่ดุร้ายและชอบกินเนื้อ
มิลฟีโอเล่แฟมิลี่ เช่น
- เบียคุรัน - อาวุธกล่องแห่งนภา1กล่อง มีมังกรขาวนภาที่มีเพียงกล่องเดียวในโลก ขนาดตัวของมังกรขึ้นอยู่กับพลังไฟที่เบียกคุรันมอบให้
- บลูเบล - อาวุธกล่องแห่งพิรุณ1กล่อง มีแอมโมไนต์พิรุณ สัตว์จำพวกหอยโบราณเปลือกแข็ง สามารถระเบิดและขยายขนาดเพื่อเพิ่มรัศมีระเบิดได้ และกล่องสังหาร (ฝังกับร่างกาย) 1กล่อง
- โทริ คาบูโตะ - อาวุธกล่องแห่งหมอก1กล่อง มีงูทะเลหมอกที่เคลือบด้วยไฟธาตุอัสนี (โทริคาบุโตะใช้ไฟได้สองธาตุ) และกล่องสังหาร (ฝังติดกับร่างกาย) 1กล่อง
- คิเคียว - อาวุธกล่องแห่งเมฆา1กล่อง มีแรปเตอร์ (ไดโนเสาร์โบราณ) เมฆา และกล่องสังหาร (ฝังติดกับร่างกาย) 1กล่อง
- อิริเอะ โชอิจิ - อาวุธกล่อง ฐานทัพเมโลเน่ ใช้ไฟธาตุอรุณในการขับเคลื่อน
- โกร คิชิเนีย - อาวุธกล่องแห่งพิรุณ1กล่อง มีนกฮูกพิรุณ (ที่ภายหลังเปลี่ยนเป็นธาตุหมอกแล้วก็กลายเป็นของโคลม) ที่มีคุณสมบัติกระจายพลังไฟเพื่อทำให้อีกฝ่ายหมดสติได้
- เกนคิชิ (อัศวินมายา) - อาวุธกล่องแห่งหมอก 3 กล่อง กล่องสัตว์คือ ทากมายา กล่องอาวุธคืออัลติเมท ดาเกรา (ยุทโธปกรณ์มหาสงคราม) ประกอบด้วยดาบมายาและเกราะมายา หนึ่งในผลงานของเคลนิตช์ 1 กล่อง รวมทั้งสุดยอดแหวนหายากคือ อินเฟทโชเน่ เฮลริงก์ (แหวนอเวจีมายากระดูก)
- แกมม่า - อาวุธกล่องแห่งอัสนี3กล่อง จิ้งจอกอัสนี 1 กล่อง กล่อง (อัพเกรด) จิ้งจอกดำอัสนี 1 กล่อง และ กล่องอาวุธบิลเลียดอัสนี 1 กล่อง
- จิล (ราซิเอล) - อาวุธกล่องแห่งวายุ1กล่อง มีค้างคาววายุที่ส่งคลื่นเสียงจู่โจมศัตรูได้
- นาเบ - อาวุธกล่องแห่งอัสนี1กล่อง ผึ้งอัสนี
- คาปูชิโน่ - อาวุธกล่องแห่งอรุณ1กล่อง ปลาหมึกอรุณ (รูปร่างเหมือนวุ้น)
- ไวจาน่า - อาวุธกล่องแห่งวายุ 2 กล่อง มีงูยักษ์วายุและด้วงวายุ
- เมจิกเชี่ยนดอล จินเจอร์เบรด - อาวุธกล่องแห่งอรุณ1กล่อง แมงมุมอรุณที่เข้าไปฟักตัวในร่างกายคนและเติบโตเพื่อฉีกร่างกายออกมาได้
- นิเคร่า - อาวุธกล่องแห่งเมฆา1กล่อง หมีเมฆา
- เดนโดร คิลั่ม - อาวุธกล่องแห่งอัสนี2กล่อง คือ หอกอัสนีและหมูป่าอัสนี
- ออลเกลท์ - อาวุธกล่องแห่งพิรุณ4กล่อง เป็นช้างพิรุณ3กล่องและนกกระทุงพิรุณอีก1กล่อง
- แจ็ค โจโล่ - อาวุธกล่องแห่งเมฆา1กล่อง พายุเมฆา
- ทหารมิลฟีโอเล่แฟเมลี่ - หอกวายุ, ค้อนอัสนี, หอกพิรุณ, ดาบเมฆา ฯลฯ
อาวุธอื่น ๆ[แก้]
มอเตอร์ไซต์ไฟธาตุ มีชื่อว่า แอร์ไบค์ (Airbike) จางนินิ ช่างฝีมือของวองโกเล่ แฟลมิลี่ ในอนาคต ประดิษฐ์มอเตอร์ไซด์ที่ใช้ไฟธาตุเป็นพลังงาน เพื่อให้สึนะและวองโกเล่ แฟมิลี่ ใช้เป็นพาหนะสำหรับต่อสู้ในศึก Choice War game กับผู้พิทักษ์ที่แท้จริงของเบียคุรัน มิลฟีโอเล่ แฟลมิลี่ โดยมีพื้นที่ต่อสู้ 10 กม. รอบ เมืองนามิโมริ ในมังงะจะเป็นมอเตอร์ไซค์สองล้อโดยผู้พิทักษ์แต่ละคน (ยกเว้นฮิบาริ โครม กับแรมโบ้) จะมีมอเตอร์ไซค์ที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไป แต่ในอะนิเมะจะเป็นมอเตอร์ไซค์แบบพิเศษที่ไม่มีล้อแต่ใช้การลอยตัวเพื่อเคลื่อนที่ไปมีลักษณะรูปร่างเหมือนกันเพียงแต่คนละสีและลายบนตัวถัง มีแค่มอเตอร์ไซค์ของซึนะเท่านั้นที่มีลายตัวถังใกล้เคียงกับในมังงะ

.jpg)
.jpg)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น